เกมนี้ เรอัล มาดริด ให้ แกเร็ธ เบล ออกสตาร์ทตัวจริงให้กับทีมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะที่ตัวหลักหลายคนไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ต่างได้พัก

เริ่มเกมมา เรอัล มาดริด ค่อยๆ ต่อบอลบุกเข้าใส่ แต่กลับเป็น นูมานเซีย ที่หวิดได้ประตูนำจากการยิงของ ฮิจินิโอ มาริน แต่ยิงในกรอบเขตโทษฝั่งขวาหลุดเสานิดเดียว

นาที 19 นูมานเซีย เจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วเมื่อ หลุยส์ บัลการ์เซ่ ลงแทน อาเดรียน รีป้า ที่บาดเจ็บ

โอกาสของ เรอัล มาดริด มาในนาที 26 ดานี่ เซบายอส ผ่านบอลให้ มาร์กอส ยอเรนเต้ ยิงด้วยซ้ายแต่ติดบล็อกนิดเดียว

ชุดชาวได้ประตูนำจนได้ในนาที 35 เมื่อมาได้จุดโทษในจังหวะที่ ลูกัส บาสเกซ โดน เกรกอริโน่ เซียร์ร่า ทำฟาวล์และรับใบเหลืองไปด้วย แกเร็ธ เบล รับหน้าที่สังหารอัดบอลตุงตาข่ายไม่เหลือ เรอัล มาดริด นำ 1-0

ครึ่งหลัง นาที 57 ลูกัส บาสเกซ ไหลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ดาเนียล การ์บาฆาล ตามขึ้นมาซัดมุมแคบ แต่ก็ติดเซฟนายทวารเจ้าถิ่น

เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้างนานๆ ที ดานี่ เนียโต้ เปิดขึ้นมาและครอสส์บอลให้ อิจินิโอ มาริน ตัวสำรองที่ลงมาครึ่งแรกโขกสะบัด แต่ไม่เข้ากรอบ

ผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน เมื่อ ปาเป้า เดียมานก้า โดนเหลืองสองหลังทำฟาวล์ เฆซุส บาเยโก้ ทำให้โดนไล่ออกไป

ราชันได้ทีบุกแหลก แต่กว่าจะได้ประตูที่ 2 ก็ต้องลุ้นจนถึงท้ายเกมเมื่อมาได้จุดโทษอีกลูกในนาที 89 ลูกัส บาสเกซ โดนทำฟาวล์ และเป็น อีสโก้ ที่ลงสำรองสังหารเข้าไปไม่พลาด

เกมขาดเป็น 3-0 ในนาทีสุดท้าย อาชราฟ ฮาคิมี่ เปิดบอลให้ บอร์ฆ่า มาโยรัล โขกจมตาข่าย ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด บุกชนะ 3-0 กุมความได้เปรียบมหาศาลก่อนกลับไปเล่นนัดสองในบ้านตัวเอง