เกมสุดท้ายของไวลด์ การ์ด ระหว่างคู่อริร่วมกลุ่ม เอ็นเอฟซีใต้ ฐานะมือ#4 เซนต์ส เล่นต่อหน้าแฟนานุแฟนที่ เมอร์เซเดซ-เบนซ์ ซูเปอร์โดม ท้าชน มือ#5 แพนเธอร์ส 

ควอเตอร์แรกเพลย์สำคัญที่อาคันตุกะพลาดคือโอกาสยิงฟิลด์โกล 15 หลา ของ แกรม กาโน่ ทว่าหวดเช็ดเสาขวาเหลี่ยมนอก พอเปลี่ยนการครองบอลจึงถูก ดรูว์ บรีส์ ลักไก่บอมบ์ทัชดาวน์ 80 หลาเข้ามือ เท็ด กินน์ จูเนียร์ เบิกสกอร์ 7-0 

สกอร์ 80 หลา ของ กินน์ จูเนียร์

จากนั้นก็เหมือนเครื่องติด ควอเตอร์#2 เจ้าถิ่นได้อีกสองสกอร์ใหญ่ ปีกนอก จอร์ช ฮิลล์ รับบอล 9 หลา และ แซ็ค ไลน์ อุ้มบอลวิ่งหนึ่งหลา ตรงข้ามกับ 'เสือดำ' มีเพียงสามฟิลด์ โกล จบครึ่งเวลา เซนต์ส นำห่าง 21-9 แต้ม 

บรีส์ หยอดเข้ามุมซ้ายให้ จอช ฮิลล์

กลับมาสู้ในควอเตอร์#3 บวกอีกฝั่งละฟิลด์ โกล คะแนนจึงช่องว่าเท่าเดิม 24-12 กระทั่งสู่ควอเตอร์สุดท้าย แพนเธอร์ส หาทางเข้าเอนด์ โซน จนเจอเมื่อ แคม นิวตัน ปาบอล 14 หลา เจาะตรงกลางให้ ปีกใน เกร็ก โอลเซ่น กระชั้นเหลือ 24-19 คะแนน 

อย่างไรก็ตามกลางควอเตอร์#4 เซนต์ส ใช้เวลาแค่ 3:02 นาที ทวงสกอร์ใหญ่เริ่มจากบิ๊กเพลย์ 46 หลาจากปีกนอก ไมเคิ่ล โธมัส จ่อเร้ดโซนให้ อัลวิ่น กามาร่า วิ่งต่อแค่ 2 หลา เป็นทัชดาวน์ฉีกอีก 31-19 

ทัชดาวน์แรกในเกมของ แพนเธอร์ส จาก เกร็ก โอลเซ่น

จากคิดว่าถอดใจ แพนเธอร์ส เซตเกมไม่ถึง 1 นาที จากแถวกลางสนาม คริสเตียน แม็คคาฟฟรี่ย์ รันนิ่งแบ็กรุคกี้ได้บอลในแผนสกรีนโกยปาราบ 56 หลา หายเข้าเอนด์โซน จี้มาอีก 31-26 คะแนน ลากเกมเข้าช่วงสี่นาทีสุดท้าย 

รุคกี้ แม็คคาฟฟรี่ย์ ต่อหวังให้ 'เสือดำ'

ทว่าไม่มีดราม่าอีกแล้วเมื่อทีมรับทั้งสองฝั่งทำงานสมบูรณ์แบบยันสกอร์ได้จนจบ หมดเวลา เซนต์ส ปาดเหงื่อคว้าชัย 31-26 คะแนน รักษาผลงานเพลย์-ออฟ ฐานะทีมเหย้าตั้งแต่ปี 2000 ชนะรวดหกนัด ผ่านเข้าไปตัดเชือกับ มินเนโซต้า ไวกิ้งส์ ฐานะมือ#2 ซึ่งคอยท่าอยู่ก่อน