มูลค่าหุ้นของ แมนเชสเตร์ ยูไนเต็ด และ ยูเวนตุส ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากทั้งสองทีมประกาศเข้าร่วมรายการ ซูเปอร์ ลีก
ช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ฮือฮาวงการฟุตบอล หลังจาก 12 สโมสรชั้นนำของยุโรปประกาศการจัดตั้ง ซูเปอร์ ลีก ซึ่งประกอบไปด้วย 6 สโมสรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาทิ อาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ รวมไปถึง 3 สโมสรชั้นนำจาก อิตาลี และ สเปน ซึ่งประกอบไปด้วย เอซี มิลาน, อินเตอร์, ยูเวนตุส, แอตเลติโก มาดริด, บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด
แม้จะมีเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากทั้ง ยูฟ่า, ลีกฟุตบอลต่างๆ รวมไปถึงแฟนบอลที่ไม่เห็นด้วยกันแนวคิด แต่หลังจากตลาดหุ้นเปิดตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาปรากฏว่ามูลค่าของ ปิศาจแดง และ ม้าลาย ปรับตัวขึ้นอย่างมาก
ตามรายงานจาก เอฟเอพี ระบุว่าหุ้นของ เบียงโคเนรี่ ที่อยู่ในตลาดมิลานปรับตัวขึ้นมาเกือบ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวในแดนบวกตั้งแต่ที่มูลค่าตกลงไปหลังร่วงตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก
ขณะที่ ผีแดง ซึ่งอยู่ในตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นมา 8.3 เปอร์เซ็นต์หลังตลาดเปิดตัวไปเพียงชั่วโมงเดียว
ทั้งนี้ ตามรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ สื่อดังอังกฤษเผยว่าหากคิดเป็นตัวเลขจำนวนเงินแล้ว มูลค่าหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มมาทันที 180 ล้านปอนด์ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวขึ้นต่อไป
สาเหตุหลักที่มูลค่าหุ้นของทั้งสองสโมสรเพิ่มขึ้นมาจากการประกาศของ ซูเปอร์ ลีก แต่ยังรวมไปถึงการเข้ามาของ เจพี มอร์แกน บริษัทให้บริการทางการเงิน และการลงทุน ที่สนับสนุนเงินทุนกว่า 4.3 พันล้านปอนด์
นอกจากนั้นทั้งแผนการของลีกและชื่อเสียงของสโมสรต่างๆ ที่เข้าร่วม ยังเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนและสินค้าต่างๆ รวมไปถึงผู้สนับสนุนทั่วโลกให้สนใจร่วมลงทุนกับพวกเขาอีกด้วย
