โจเอล เอ็มบีด ทำ 36 คะแนนมากสุดอาชีพในการเล่นเพลย์ออฟนำ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส บุกชนะ วอชิงตัน วิเซิร์ดส์ 132-103 ขยับขึ้นแท่นนำ 3-0 เกมซีรี่ส์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

เอ็มบีด สลัดพ้นเสียงเยาะเย้ยจากการดังค์พลาดและทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่พลาดในการพยายามครั้งต่อไป หลังยัดบอลลงห่วงสำเร็จเขาก็เอามือแนบหูเพื่อกระตุ้นแฟนๆในสนาม 'ผมมีโอกาสที่จะทำดังค์ นั่นคือเหตุผลที่ผมไปหาพวกเขาและผมอยากได้ยินเสียงโห่มากกว่านี้' เอ็มบีด กล่าว

ท่ามกลางเสียงโห่ก็ยังมีแฟนๆฝั่งซิกเซอร์สตะโกนร้อง 'เอ็ม-วี-พี! เอ็ม-วี-พี!' ถึง เอ็มบีด เช่นเดียวกันแสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นของเซนเตอร์ฟิลาเดลเฟียที่มีส่วนช่วย ซิกเซอร์ส ใกล้กวาดเกมซีรี่ส์เพลย์ออฟ รอบแรก 

เอ็มบีด ทำ 36 คะแนน ชู้ตฟิลด์โกลลง 14 จาก 18 ครั้ง ส่องระยะ 3 คะแนนลง 3 จาก 4 ครั้ง และยังทำอีก 8 รีบาวน์ด, 2 แอสซิสต์, 3 สตีล กับ 1 บล็อค เขาทำ 25 คะแนนในช่วงครึ่งแรก ก่อนจะได้พักตลอดช่วงควอเตอร์สุดท้าย นั่นเป็นการลงเล่นน้อยสุดอันดับ 2 สำหรับผู้เล่นที่ทำอย่างน้อย 35 คะแนนตั้งแต่ยุคเอ็นบีเอเริ่มใช้ 'ชอต-คล็อค' ตั้งแต่ปี 1954 

ด้าน โทไบอัส แฮร์ริส ทำ 20 คะแนน, 13 รีบาวน์ด กับ 5 แอสซิสต์, เซ็ธ เคอร์รี่ ทำ 15 คะแนนกับ 6 แอสซิสต์, เบน ซิมม่อนส์ ทำ 14 คะแนน, 5 รีบาวน์ด กับ 9 แอสซิสต์ และ แดนนี่ กรีน ทำ 15 คะแนน ชู้ตระยะ 3 ลง 5 จาก 9 ครั้ง 

ส่วน รัสเซลล์ เวสต์บรู้ก ทำมากสุดของ วิเซิร์ดส์ หลังทำ 'ทริเปิ้ล-ดับเบิ้ล' จากสกอร์ 26 คะแนน, 12 รีบาวน์ด กับ 10 แอสซิสต์, แบร็ดลี่ย์ บีล ทำ 25 คะแนน กับ 6 รีบาวน์ด และ แดเนียล แกฟฟอร์ด ลงมาช่วยทำอีก 16 คะแนน

ซิกเซอร์ส ชู้ตฟิลด์โกลลง 58.6 เปอร์เซ็นต์ และ ชู้ตระยะ 3 คะแนนลง 51.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วย ฟิลาเดลเฟีย เคยทิ้งห่างมากถึง 31 คะแนน ก่อนนำไปสู่ซีรี่ส์ 3-0 เกม ครั้งแรกของแฟรนไชส์นับตั้งแต่ปี 1985

'ผมนึกไม่ออกว่าจะมีใครเล่นได้ดีกว่าเขา' สกอตต์ บรู้กส์ เฮดโค้ช วิเซิร์ดส์ กล่าวถึง เอ็มบีด 'นั่นคือระดับ เอ็มวีพี ในคืนนี้'