ดร็อกบา ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพค้าแข้งโดยเฉพาะช่วงที่เล่นให้ เชลซี รวม 9 ฤดูกาลใน 2 ช่วง พาทีมคว้าแชมป์สำคัญหลายรายการไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย 

อดีตดาวยิงวัย 34 ปี เป็นแกนหลักพาทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ครั้งแรกในปี 2006 ที่ประเทศเยอรมนี โดยลงเล่นให้ทัพ "ช้างดำ" ทั้งหมด 105 นัด ทำได้ 65 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติ

นอกจากนี้ ดร็อกบา ยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างสันติภาพในประเทศบ้านเกิด โดยเมื่อในปี 2007 เขาได้รับการแต่งตั้งทำหน้าที่ทูตสันถวไมตรีสำหรับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และปีถัดมาได้กลายเป็นรองประธานขององค์กรระหว่างประเทศสันติภาพและการกีฬา

ด้วยคุณงามความดีทั้งการสร้างชื่อเสียงในฐานะนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และบทบาททางสังคมทำให้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ได้เข้ารับปริญญากิตติมศักดิ์ที่บ้านเกิดเพื่อให้เป็นที่รับรู้ของทุกคนมากขึ้น