หลังจากเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นี่จึงถือเป็นปรีซีซั่นและการเตรียมทีมแบบเต็มตัวเป็นครั้งแรกสำหรับ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ซึ่งตลอดการฝึกซ้อมระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ประจวบเหมาะกับการที่ศึกไทยลีกฤดกาล 2021/2022 ต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม 31 กรกฎาคม เป็นวันที่ 3 กันยายน เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยนั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้กุนซือรายนี้ได้มีเวลาปรับจูนกับนักเตะให้เข้าใจในรายละเอียดของแท็คติกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเขาเองก็พอใจเป็นอย่างมากกับความตั้งใจและความทุ่มเทของลูกทีมทุกคน

กุนซือวัย 49 ปี เปิดเผยถึงภาพรวมของปรีซีซั่นว่า “ถือว่าพอใจ 90% ครับ เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว เรายังคงเก็บนักเตะแกนหลักจากฤดูกาลที่แล้วไว้ครบ ถึงแม้ว่าตัวผู้เล่นใหม่เราจะไม่ได้เสริมเยอะ แต่เราก็เติมตามตำแหน่งที่เหมาะสม อย่าง ‘คาร์เตอร์’ (แอนโธนี คาร์เตอร์) ต่างชาติในตำแหน่งกองหน้า กับ ‘วัฒน์’ (นันทวัฒน์ กกฝ้าย) กองกลางที่มาแทนคนที่ย้ายออกไป ขณะเดียวกันเราก็มีการดึงเด็กจากอะคาเดมีหลายคนขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ เพื่อสร้างให้เค้าคุ้นเคยกับการซ้อมร่วมกับนักเตะระดับซีเนียร์ เพื่อผลักดันตัวเองให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลักของสโมสรในอนาคต”

“ตลอดการฝึกซ้อมในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมานักเตะทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและก็ปรับตัวจากปีที่แล้ว ซึ่งทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ตั้งใจและมุ่งมั่นอยากจะพาทีมประสบความสำเร็จในปีนี้ มันเลยทำให้ทีมงานโค้ชทุคนทำงานง่ายขึ้นไปด้วย จริงๆเราได้มีการใส่แท็คติกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มาปีนี้เราเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นในทุกๆรายละเอียด นักบอลให้ความร่วมมือดีมากในสิ่งที่พี่ต้องการ และทำได้ดีในช่วงของการฝึกซ้อมที่ผ่านมา ก็ถือว่าพร้อมมากๆสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงครับ”

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันศึกไทยลีกฤดูกาลใหม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยนัดแรกทีม “แข้งเทพ” ต้องบุกไปเยือนทีมน้องใหม่อย่าง “เชียงใหม่ ยูไนเต็ด” ขณะเดียวกันยังต้องเจอคู่แข่งในการลุ้นแชมป์ถึง 2 ทีมใน 5 นัดแรก แต่ “โค้ชแบน” ก็แสดงความเห็นว่า การเจอคู่ต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นทีมใดก็คงไม่ต่างกัน เพราะในหนึ่งฤดูกาลก็ต้องเจอกันครบ 15 ทีมอยู่ดี แต่หากทีมอยู่ในจุดที่ต้องการจะคว้าแชมป์ก็จะต้องไม่ประมาทและไม่หวั่นเกรงคู่ต่อสู้ไม่ว่าทีมใดก็ตาม

“เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เป็นทีมน้องใหม่ที่เพิ่งขึ้นชั้นมา พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และเราก็ต้องไปเยือนด้วย ฉะนั้นเราไม่ประมาทแน่นอน ส่วนนัดถัดๆไปที่ต้องเจอทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์นั้น พี่มองว่าเป็นเรื่องปกติ แน่นอนว่าทั้ง 16 ทีมต่างก็แข็งแกร่งด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเจอช้าหรือเจอเร็วมันก็ต้องเจอกันหมดอยู่ดี แต่ทีมเราเป็นทีมที่ต้องการประสบความสำเร็จ และอยู่ในจุดที่ลุ้นแชมป์ ฉะนั้นเราจึงต้องไม่กลัวทีมใดในลีก ถ้าเรามีความพร้อมและเด็กทำได้ตามที่สิ่งที่เราซ้อมกันมา พี่ก็มั่นใจว่าทีมจะไปได้ดีในปีนี้ พร้อมต่อกรกับทุกทีมในลีกครับ” อดีตตำนานนักเตะทีมชาติไทยกล่าวทิ้งท้าย