เริ่มกันที่สนาม ฟิลลิปส์ สตาดิโอน ในเมืองไอน์โฮเฟ่น เจ้าบ้านนำในครึ่งแรก 1-0 จากจุดโทษของ เมมฟิส เดอปาย นาทีที่ 38 ซึ่งเป็นประตูเดียวในช่วง 45 นาที

โดยในช่วงครึ่งหลัง เดอปาย มาสอยตาข่ายอีกลูกในนาที 62 ก่อนจะเป็น จอร์จินโย่ ไวนัลดุม บวกเพิ่มในนาที 70 และทาง โคดี้ กักโป ทำประตูปิดท้ายให้ ขุนพลดัตล์ ถล่ม มอนเตเนโกร 4-0

ตอนนี้ อัศวินสีส้ม เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 5 นัดเท่ากับ นอร์เวย์ ตามหลัง ตุรกี จ่าฝูงเพียงคะแนนเดียว

มาต่อกันที่ เกมในกรุงเคียฟ เจ้าบ้านยูเครนเปิดสนามรับมือแชมป์โลกปี 2018 อย่าง ฝรั่งเศส 

เกมครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างมีโอกาส ก่อนจะเป็น ยูเครน ที่ออกนำ 1-0 ในนาที 44 มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ทำประตูให้เจ้าถิ่นได้เฮไปก่อน

กระนั้นในครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที เลส์ เบลอส์ ตามตีเสมอได้ทันควันจากผลงานของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จบเกมเสมอกันไป 1-1 แชร์แต้มไปฝั่งละคะแนน

โดยตอนนี้ ตราไก่ นำจ่าฝูงมี 9 คะแนนจาก 5 นัด ส่วน ยูเครน มี 5 คะแนนหลังจากเสมอรวด