ยูไนเต็ด เชือดนิ่ม บียาร์เรอัล 2-0 วานนี้แต่กว่าจะได้ประตูขึ้นนำจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาที 78 หรือปิดกล่องทดเจ็บโดย เจดอน ซานโช่ นั้น ก็เรียกว่าโดนเจ้าถิ่นล่อเป้าเจียนไปเจียนอยู่หายหนแต่ไม่ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา 

ซึ่งพอคว้าชัยนอกบ้านนัดสำคัญการันตีเข้ารอบแบบมีคลีนชีต บรรยากาศในห้องแต่งตัวคงดีขึ้นเพื่อพร้อมล่องใต้ไปบู๊ เชลซี เกมลีกสุดสัปดาห์ 

“ใจผมไม่มีข้อกังขาเลยว่าในห้องแต่งตัว แมนฯ ยูไนเต็ด เด็กๆคงผลักดันกันถ่ายทอดความต้องการเอาคลีนชีตเกมดังกล่าวเป็นอย่างแรก” อดีตผู้เช่นแชมป์ยุโรปปี 2008 กล่าว 

https://twitter.com/btsportfootball/status/1463242872505999364

“ไม่เสียประตูไว้ก่อน แล้วเรามีผู้เล่นซึ่งสามารถพังตาข่ายค้ำไว้อยู่แล้ว ของแบบนี้ไม่ได้มาจากความสามารถเฉพาะตัวแต่มาจากผลงานทั้งทีม รวมพลังกันทำ” 

“เกมเมื่อคืนอาจไม่เร้าใจ, แต่เปี่ยมวินัยและพวกเขามีแผนมา ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคือเรื่องที่เราเรียกร้องเห็นมาตลอด 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา” 

“นี่คงไม่ใช่ผลงานที่สวยหรู, เป็นที่กล่าวขานเหมือนนิยาย, เป็นฟุตบอลในอุดมคติอย่างที่ทุกคนสรรเสริญ” 

“แต่มันคือคุณทำหน้าที่แบบไร้ข้อบกพร้อง, รักษาตำแหน่ง, รอจังหวะและดิ้นรนเก็บชัย - ซึ่งพวกเขาปิดงานลงเมื่อคืน” 

อีกคนที่ศิษย์พี่ ‘ปีศาจแดง’ ชมคือนายด่าน ดาบิด เด เคอา ที่เซฟอุตลุด 

“คิดว่าผลงานของเขากลับเข้ารูปเข้ารอย ฟอร์มแบบนั้นคือช่วงแรกในยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จนทีมมอบสัญญาใหม่ให้  - ช่วงที่เดินเครื่องชนะได้ต่อเนื่องนั้นทีมต้องเหงื่อตกกีบรับมือถูกคู่แข่งกดดันบ้าง จากนั้นค่อยใช้ความสามารถของผู้เล่นเกมบุกตลบหลังจากบอลสวนกลับ” 

“เกมต่อไปที่พบ เชลซี สุดสัปดาห์ ผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด คงถอดแบบผลงานจากครึ่งหลังนัดเจอ บียาร์เรอัล ล่องไปท้าดวล” 

คาร์ริค คือหัวหน้าผู้ฝึกสอนสัญชาติอังกฤษคนแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ประเดิมคุมทีมชนะ (รวมผจก.ทีมที่กลับมาทำงานหนสอง) ต่อจาก วอลเตอร์ คริคเมอร์ ทำไว้เมื่อ พ.ย. 1931