เดวิด มอยส์ ผจก.ทีม เวสต์แฮม เป็นเดือดเป็นร้อนแทน เจสซี่ ลินการ์ด เพลย์เมกเกอร์ด้อยโอกาส แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะแทนที่จะหาทางวิ่งเต้นย้ายถาวรสู่หัวหมาแห่งลอนดอน สเตเดี้ยม กลับเลือกเส้นทางหางมังกรยัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด บทสรุปจึงนอนน้ำตาร่วง
ลินการ์ด โดนส่งมาเล่นแบบยืมตัวที่ ‘ขุนค้อน’ ช่วงครึ่งหลังฤดูกาล 2020-21 ปรากฏสร้างสุดยอดผลงาน 9 ประตู, ห้าแอสซิสต์มีส่วนสำคัญช่วยทีมคว้าโควตา ยูโรปา ลีก ขณะที่เจ้าตัวก็พกความมั่นใจเต็มเปี่ยมแถมมีลุ้นเกือบติดทีมชาติอังกฤษไปแข่งยูโร 2020
อย่างไรก็ตามการกลับไปยังสังกัดแม่ทางแข้งวัย 28 ปีก็ยังด้อยโอกาสเพราะไม่มีสิทธิ์ลงตัวจริงเกมลีกเลยฤดูกาลนี้ ถูกเปลี่ยนใช้ฐานะสำรอง 8 นัด
https://twitter.com/SkySportsPL/status/1467056086788108292
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ‘เจส’ ทำให้ มอยส์ ซึ่งนับถือกันเหมือนเป็นพ่ออีกคนรู้สึกเจ็บใจแทน เปรยหากมีโอกาสก็อยากชวนมาจับมือกันอีกครั้งในอนาคต
“ผมคงไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเขาได้มากมายเพราะหมอนั่นคือผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ธุระที่ต้องไปพาดพิง” มอยส์ ออกตัวตามมารยาท
“แต่ตอนเขาอยู่กับเราเล่นดีจริงๆ เจสซี่ รู้ว่าเราทุกคนที่นี่คิดอย่างไรกับเขา - ความผิดหวังของผมที่มีต่อหมอนั่นคงเป็นเรื่องว่า ลินการ์ด คือนักเตะมากความสามารถที่ขาดโอกาสลงสนาม”
“‘เจส’ มีบทบาทสำคัญแก่ทีมเราช่วงครึ่งหลังซีซั่นก่อน แต่ก็ต้องยกความดีความชอบแก่ผู้เล่นในทีมคนอื่นๆด้วย พวกเขาก็ต้องเดินหน้าต่อไปแบบไร้ เจสซี่”
“คนส่วนใหญ่มักคิดว่า เจสซี่ มาสร้างความแตกต่างที่นี่ แต่นักเตะของเราตอนนี้ต่างมูฟออนแล้วยกระดับตัวเองกันขึ้นมาอีกขั้น - แต่ผมก็อยากบอกว่า เจสซี่ มีส่วนสำคัญต่อเรื่องนั้น”
ความเปลี่ยนแปลงผจก.ทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด จาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็น ราล์ฟ รังนิก ทำให้อนาคต ลินการ์ด ไร้ความชัดเจนอีกครั้ง ก็ต้องรอดูสถานการณ์หากเหมือนเดิมคงหาทางย้ายออกตลาด ม.ค. 2022 หรือรอเป็นฟรีเอเยนต์เมื่อจบซีซั่น
