แมนฯ ยูไนเต็ด ยุครักษาการผจก.ทีม ราล์ฟ รังนิก ถูก แกรี่ เนวิลล์ นักวิจารณ์ สกาย สปอร์ตส์ ตั้งคำถามว่าเลือกใช้ระบบการเล่นเหมาะสมแล้วหรือกับ 4-2-2-2 เมื่อคุณภาพฟูลแบ็กมีอยู่อย่างจำกัด แล้วสาดสายตาไปทั่วยุโรปมีทีมใดประสบความสำเร็จบ้างในแผนนี้
รังนิก ใช้ 4-2-2-2 ในสามเกมลีกผลออกมาชนะ 2, เสมอหนึ่งยิงไม่เกินเกมละลูก ส่วนเวทีชปล.จัดสำรองส่วนใหญ่ยืน 4-1-4-1
นำมาซึ่งการตั้งคำถามจาก เนวิลล์ ว่าระบบเก่งของนักยุทธศาสตร์วัย 63 ปีเหมาะสมแล้วจริงหรือที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพราะ 4-2-2-2 จะเปล่งประสิทธิภาพเมื่อปีฟูลแบ็กครบเครื่องรุก-รับ ทว่าขุมกำลัง ‘ปีศาจแดง’ มีแบ็กอย่าง อารอน วาน-บิสซาก้า, ดิโอโก้ ดาโล่ต์, ลุ้ค ชอว์ และ อเล็กซ์ เตลลิส ซึ่งแต่ละคนผลงานสามวันดี สี่วันไข้
“ปัญหาของระบบนี้มันเบิ้ลเป็น 2 เด้ง ประการแรกแล้วสำคัญสุดคือคุณยังไม่สามารถหาสมดุลการเล่น ณ เวลานี้”การแสดงความเห็นผ่าน ‘มันเดย์ ไนท์ ฟุตบอล’
https://twitter.com/footballdaily/status/1475599094060130304
“เมื่อคุณต้องเล่นเกมป้องกัน มันก็จะปรับมาเป็น 4-4-2 ปัญหาอีกประการคือคุณจะเอาใครมาเป็นคู่ขาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อย่างที่เราเห็นกันมาตลอดสามนัดที่ผ่านไป”
“ผมนึกไม่ออกเหมือนกันว่ามีทีมใดของยุโรปที่เล่นระบบนี้แล้วสร้างผลงานออกมาดี เครื่องหมายคำถามตัวโตที่ฟูลแบ็กเช่นกัน”
“ตำแหน่งแบ็กคุณคาดหวังให้เขาขึ้นช่วยเกมรุกด้านกว้าง แต่ก็ต้องป้องกันดีด้วยในส่วนใหญ่ของเกม- ซึ่งหากคู่แข่งมีคุณภาพมากกว่านี้คุณคงโดนเผาจนเละแล้ว”
“มันมีข้อกังขาอยากมากต่อฝีเท้า ดาโล่ต์ กับ เตลลิส พวกเขาจะสามารถป้องกันได้ดีแค่ไหนเวลาเจอคู่แข่งเจ๋งๆ? ผมดูแล้วคงยากจะเอาอยู่”
“รังนิก ควรเปลี่ยนระบบการเล่น ก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่แต่เขาจะทำมันแน่เพราะไม่เห็นว่ามีสโมสรหัวกะทิใดเล่นแบบนั้น (4-2-2-2) โดยส่วนตัวไม่เชื่อมั่นแผนการเล่นนี้เลย”
กุนซือดอยช์จะได้พิสูจน์กึ๋นตัวเองฐานะทีมเหย้าในอีกสองนัดจากนี้พบ เบิร์นลี่ย์ กับ วูล์ฟส์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า 4-2-2-2 ไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่กูรูจับผิด
