คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางป้ายแดง เบรนท์ฟอร์ด นั่งเปิดปากครั้งแรกกับช่องยูทู้บสโมสรทราบเต็มอกเรื่องต้องได้กลับมาเตะบอลอาชีพระดับสูงอีกครั้งในเวลาไม่เกิน 2 วันของการพักฟื้น หลังเผชิญภาวะหยุดเต้นเฉียบพลันตอนรับใช้ชาติใน ยูโร 2020
เอริคเซ่น ประสบปัญหาสุขภาพขณะเตะนามทีมชาติเดนมาร์กตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนปีที่แล้ว แล้วต้องเรื่องรักษาด้วยวิธีฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติเอาไว้ในร่างกาย
อย่างไรก็ตามแม้แนวทางนั้นได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยในฟุตบอลลีกชั้นนำหลายแห่งของยุโรป แต่กับที่อิตาลียังไม่ผ่านกฎหมายดังกล่าว ทำให้ อินเตอร์ มิลาน ต้นสังกัดเดิมขอยกเลิกสัญญาดาวเตะวัย 29 ปี กระทั่งได้มาลงเอยยัง ‘เดอะ บีส์’ ที่มอบสัญญาระยะสั้น 5 เดือนให้ปล่อยของ
ซึ่งในความเห็นของแข้งเดนส์เชื่อว่าอาการของเขาไม่ได้อันตรายถึงชีวิตอีกแล้ว แถมมั่นใจเรื่องตัวเองต้องได้กลับมาหลังจากเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาลผ่านไปเพียง 48 ชั่วโมง
“จำได้เลยวันที่เกิดเรื่องระหว่างนั่งรถไปโรงพยาบาล ก็บอกกับ ซาบริน่า (เมีย) ว่า - พี่คงต้องแขวนสตั๊ดตั้งแต่บัดนี้แล้วสิ - “ กองกลางเชิงสูงกล่าว
https://twitter.com/BrentfordFC/status/1490810083965640707
“แต่สองวันจากนั้นความคิดเปลี่ยนไปเลย ณ ขณะนั้นก็ตระหนักแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในคืนถัดไป ในอีก 2-3 จากนี้”
“กระบวนการทดสอบต่างๆดำเนินไป ควบคู่กับความรู้ที่หลั่งไหลเข้ามา จนเกิดคำถามว่า ผมสามารถทำแบบนี้, ทำแบบนั้นได้ไหม? แล้วก็ฟังคำตอบจากแพทย์เจ้าของไข้”
“ขั้นต่อไปกระบวนการก็ค่อยๆใช้เวลามากขึ้น ผ่านไปได้ช้าลง มันมีกระบวนการเพื่อดูการตอบสนองของหัวใจเมื่อลงไปซ้อมอีกครั้ง โชคดีไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทุกอย่างราบรื่น”
“ตั้งแต่นั้นก็ผลักดันตัวเองในทุกๆเดือน จนทราบว่าสามารถกลับมาเล่นได้ แต่แล้วก็ได้ยินแพทย์แจ้งเรื่องคงต้องติดเครื่องกระตุ้นหัวใจต่อไปแบบไม่มีกำหนด มันขึ้นกับผลวินิจฉัยอาการ และตัวผมที่รู้สึกอย่างไร”
“ผมจึงต้องรออย่างอดทน เชื่อใจเทรนเนอร์ส่วนตัว, เชื่อใจแพทย์และดำเนินงานตามแผนที่พวกเขาทำให้ผม ซึ่งนั่นทำให้สบายใจและผ่อนคลายที่จะกลับมาเป็นปกติ”
เกมต่อไปของ เบรนท์ฟอร์ด คือเยือน แมนฯ ซิตี้ (9 ก.พ.) น่าสนใจว่าดาวเตะเดนมาร์กจะมีชื่อใช้งานหรือไม่
