ที่ เอสตาดิโอ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เมืองเซบีย่า ประเทศสเปน เป็นรอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก ระหว่าง อินทรีแดงดำ จากเยอรมนี พบ เดอะ ไลท์ บลูส์ ของสกอตแลนด์

ผ่านไป 12 นาที แฟร้งค์เฟิร์ต ทักทายก่อนจาก ไดจิ คามาดะ ที่เก็บตกแล้วสับไกติดเซฟ อัลลัน แม็คเกรเกอร์ และจากนั้นนาที 20 นายด่านวัย 40 ปีป้องกันลูกยิงของ อันส์การ์ คเนาฟ์ อีกครั้ง

โอกาสจะแจ้งแรกของ เรนเจอร์ส ในนาที 26 สกอตต์ ไรท์ ทำทางให้ โจ อารีโบ กองหน้าตัวหลักกดด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไปนิดเดียว ถัดไป 4 นาทีตัวแทนจากเยอรมนีมีโอกาสบ้างเมื่อทาง ฟิลิป คอสติช ยิงสวนออกหลัง

นาทีที่ 32 แฟร้งค์เฟิร์ต มาอีกครั้ง หนนี้ ฟิลิป คอสติช คนเดิมสอดมาทางซ้ายแล้วยิงเน้นๆ แต่บอลก็ยังไม่เข้าเป้า

เล่นไปถึงครึ่งหลังนาที 52 ราฟาเอล บอร์เร่ โดน คอนเนอร์ โกลด์สัน สกัดล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นเตะมุมแทน ซึ่งหลังจากดู วีเออาร์ ก็ยังคงยืนยันคำตัดสิน

กระนั้นนาทีที่ 57 เรนเจอร์ส ออกนำ 1-0 เควิน ทรัปป์ สาดยาวขึ้นหน้าแต่บอลโดนโขกกลับมากลางสนาม จีบริล โซว์ หมายโหม่งคืนหลังแต่เพื่อนดันไปลื่นล้มเลยทำให้ โจ อารีโบ หลุดแปด้วยซ้ายไม่เหลือซาก

เกมสนุกทันที นาทีที่ 67 อินทรีแดงดำ พลาดโอกาสตีเสมอ เซบาสเตียน โรเด้อ แทงมาให้ ไดจิ คามาดะ หลุดไปทำประตูแต่โดน อัลลัน แม็คเกรเกอร์ ออกมาบีบเลยยิงข้ามคาน

แต่ 2 นาทีต่อมาตัวแทนจากเยอรมนีตีเสมอ 1-1 ฟิลิป คอสติช ครอสจากทางซ้ายบอลหลุดมาถึงตรงกลางประตู ราฟาเอล บอร์เร่ จิ้มบอลเสียบตาข่าย

ท้ายเกม แฟร้งค์เฟิร์ต หวิดแซงชนะเมื่อทาง ฟิลิป คอสติช เก็บบอลทางซ้ายของกรอบเขตโทษก่อนสับไกแต่บอลพุ่งผ่านหน้าประตูหลุดเสาสอง

จบเกม 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปเพื่อหาผู้ชนะ

ช่วงต่อเวลาดูเป็นทาง แฟร้งค์เฟิร์ต ที่ครองบอลเล่นงาน เรนเจอร์ส ได้ดีกว่า แต่ส่วนใหญ่ได้แค่ลุ้นเท่านั้น นาที 115 คริสเตียน ยาคิช ยิงไกลส่งบอลข้ามคานนิดเดียว

เดอะ ไลท์ บลูส์ พลาดโอกาสทองในนาที 118 เคมาร์ รูฟ ตัวสำรองปาดจากสุดเส้นหลังทางขวามากลางประตู ไรอัน เคนท์ ชาร์จจ่อๆ แต่ เควิน ทรัปป์ เหยียดขาออกไปบล็อกได้หวุดหวิด

ช่วงทดเวลา เจมส์ ทาเวอร์เนียร์ ปั่นฟรีคิกด้วยขวาแต่ เควิน ทรัปป์ ดักทางได้ก่อนคว้าเข้ามือ จบเกม 120 นาทีเสมอ 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน

เป็นทาง แฟร้งค์เฟิร์ต ที่ทำได้ดีกว่าเอาชนะด้วยสกอร์ 5-4 คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก สมัยที่ 2 ไปครองพร้อมสิทธิ์ไปเตะ แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลหน้า