แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญหน้ากับฤดูกาลเลวร้ายที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยจบเพียงแค่อันดับ 6 เท่านั้น แต่ โรนัลโด้ วัย 37 ปี ที่เคยคว้ารางวัลดังกล่าว 2 ครั้งในปี 2006-07 และ 2007-08 ก็จบซีซั่นด้วยการทำไป 18 ประตู และ 3 แอสซิสต์ ในลีก ซึ่งทำให้เขาพาตัวเองมาเข้าชิงรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี

แม้การที่ผู้เล่นจาก ผีแดง มีส่วนร่วมจะเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจอีกอย่างก็คือมีเพียง 1 คนจากทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งก็คือ เดอ บรอยน์ ทั้งที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา หรือ โรดรี้ เอร์นานเดซ ก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด

เดอ บรอยน์ เคยได้รางวัลนี้มาแล้วในปี 2020 และ 2021 โดยมิดฟิลด์วัย 30 ปี ถือเป็นตัวเต็งสำหรับรางวัลในปีนี้

จากจำนวน 15 ประตู และ 8 แอสซิสต์ เดอ บรอยน์ จึงกลายเป็นศูนย์กลางในความสำเร็จของทีม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในที่สุด

ในขณะที่ ซิตี้ อาจรู้สึกไม่เห็นด้วยที่มีเพียงผู้เล่นคนเดียวจาก 6 คนสุดท้ายที่เข้าชิง แต่ ลิเวอร์พูล พบว่าพวกเขาครอบคลุมเสียงโหวตกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมีทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เข้าชิง

รางวัลนี้ได้รับการคัดเลือกโดยเพื่อนร่วมอาชีพ และการที่ หงส์แดง ซึ่งมีลุ้นคว้า 4 แชมป์มาตลอดทั้งฤดูกาลจนจบด้วย 2 แชมป์ นั้นพิสูจน์ว่าพวกเขาได้รับความเคารพนับถือจากเพื่อนๆ ร่วมอาชีพหลายคน

สำหรับ ซาลาห์ นั้นไม่น่าแปลกใจเลยกับผลงานในซีซั่น 2021-22 ในฐานะดาวซัลโวสูงสุด และยังทำแอสซิสต์มากที่สุดด้วย

ดาวเตะอียิปต์ซึ่งเคยได้รางวัลนี้ในปี 2017-18 ทำไป 22 ประตู และ 13 แอสซิสต์

ในรายชื่อ 6 คนสุดท้าย มีกองหน้า สเปอร์ส อย่าง เคน ติดเข้ามาด้วย ซึ่งแม้จะออกสตาร์ทซีซั่นได้ช้ามากในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็มีพลังอย่างมากนับตั้งแต่ที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาจนพาทีมคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในที่สุด

กระนั้น ซน ฮึง-มิน กลับหลุดโผซะงั้นทั้งที่กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ร่วมกับ ซาลาห์