ที่ สตาดิโอ ดีเอโก้ อาร์มานโด้ มาราโดน่า เป็นเกมกลุ่ม เอ ระหว่าง นาโปลี เปิดรังรับมือ ลิเวอร์พูล ทีมแกร่งของอังกฤษ

ผ่านไป 4 นาที เจมส์ มิลเนอร์ โดนผู้ตัดสินจับแฮนด์บอล ก่อนทาง พีโอเตอร์ ซีลินสกี้ รับหน้าที่สังหารส่งบอลเข้าประตูให้เจ้าบ้านออกนำ 1-0 

ถัดมานาทีที่ 16 เกิดจังหวะปัญหาอีกครั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไปทำฟาวล์ วิคเตอร์ โอซีเมน ทำให้ผู้ตัดสินต้องย้อยดูจังหวะจากจอ วีเออาร์ ก่อนกลับมาให้จุดโทษ นาโปลี 

แต่หนนี้ วิคเตอร์ โอซีเมน ที่ขอรับอาสายิงดันกดไปติดเซฟ อาลีสซง เบ็กเกอร์ นายด่าน หงส์แดง

กระนั้น อัซซูร่า นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 32 จากจังหวะพลาดเสียบอลของ โจ โกเมซ ก่อนเป็น พีโอเตอร์ ซีลินสกี้ ชิ่งคืนให้ ฟร้องก์ ซ็อมโบ อ็องกีส์ซ่า สับไกไม่พลาด

ลิเวอร์พูล โดนอีกเม็ดในนาที 44 ซ็อมโบ อ็องกีส์ซ่า พาขึ้นมาจากแดนกลางก่อนไหลให้ ควิช่า ควาราตส์เคเลีย หนี โจ โกเมซ แล้วเปิดเข้าทาง โจวานนี่ ซิเมโอเน่ ซึ่งลงมาแทน โอซีเมน สอยตาข่าย 3-0

ครึ่งหลังลงไป 2 นาทีสกอร์ห่าง 4-0 โจวานนี่ ซิเมโอเน่ ครอสให้ พีโอเตอร์ ซีลินสกี้ ชาร์จดอกแรกติดเซฟ อาลีสซง แต่กองกลางโปแลนด์ตามซ้ำดาบสองไม่พลาด

หงส์แดง ตีไข่แตกไล่มา 1-4 ในนาที 49 จากผลงาน หลุยส์ ดีอาซ ยิงจากนอกกรอบเขตโทษส่งบอลเสียบตาข่าย

ลิเวอร์พูล พยายามเอาคืนแต่ทำไม่ได้ จบเกมบุกแพ้ นาโปลี ขาดลอย 1-4 

ข้ามไปที่กลุ่ม ดี ณ สนาม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม โดยทาง ไก่เดือยทอง เปิดสนามดวลกับ โอลิมปิก มาร์กเซย 

โอกาสจะแจ้งแทบไม่มีให้เห็น ท้ายครึ่งแรกนาที 40 ซน ฮึง-มิน ผ่านบอลมาให้ แฮร์รี่ เคน กดด้วยขวาในกรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไป

ครึ่งหลังนาที 48 มาร์กเซย เหลือ 10 คน ซน ฮึง-มิน เร่งความเร็วจะไปเอาบอลก่อนโดน ชานเซล เอ็มเบมบ้า เสียบล้มลงไป ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่กองหลังทีมเยือน

ไก่เดือยทอง กดันหนักจนได้เฮในนาที 76 อีวาน เปริชิช ลากตัดจากซ้ายก่อนเปิดด้วยขวามาให้ ริชาร์ลิซอน ขึ้นโขกส่งบอลเสียบตาข่าย 1-0

นาทีที่ 81 สกอร์ขยับเป็น 2-0 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก ครอสจากทางซ้ายลึกมาให้ ริชาร์ลิซอน โขกบอลเสียบเสาไกล

จบเกม สเปอร์ส เปิดบ้านชนะ มาร์กเซย ที่เหลือ 10 คน 2-0