เกมของกลุ่ม ซี ที่สนาม คัมป์ นู ระหว่าง บาร์เซโลน่า เปิดบ้านพบกับ วิคโตเรีย พิลเซ่น 

ผ่านไปเพียง 13 นาที อาซูลกราน่า ออกนำ 1-0 จากลูกเตะ ฌูลส์ กุนเด้ โขกย้อนกลับมาเข้าทางปืน ฟร้องก์ เกสซีเย่ ขึ้นโหม่งส่งบอลเบียดเสาขวามือตัวเองไม่เหลือซาก

ถัดมานาที 24 มีจังหวะปัญหา จอห์น มอสเกร่า พลิกตัวเข้าเขตโทษโดยมีท่อนแขนไปฟาด อันเดรียส คริสเตนเซ่น ซึ่งตอนล้มได้รวบแนวรุกทีมเยือนกองกับพื้น ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ

อย่างไรก็ตาม วีเออาร์ รอจังหวะตรวจสอบก่อนส่งสัญญาณให้ผู้ตัดสินไปดูจอข้างสนาม ท้ายที่สุดกลับคำตัดสินไม่ใช่จุดโทษและแจกใบเหลือง มอสเกร่า ในจังหวะ

ทำฟาวล์

บาร์ซ่า นำห่าง 2-0 ในนาที 34 เซร์จี้ โรเบร์โต้ ผ่านบอลเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่จัดการปั่นด้วยขวาเสียบมุมแบบหมดจด

ทีมเยือนจากสาธารณรัฐเช็กไม่ยอมง่ายๆ ไล่มา 1-2 ในนาที 44 จากผลงาน ยาน ซีโกร่า แม้ว่า วีเออาร์ ขอดูจังหวะล้ำหน้าแต่ก็ยืนยันให้ประตู

ช่วงทดเวลานาทีที่สามเจ้าบ้านได้อีกประตู อุสมัน เดมเบเล่ อาศัยความขยันสไลด์ตัดบอลก่อนบรรจงเปิดไปเสาไกลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โขกไม่พลาด 3-1 

บาร์ซ่า นำห่าง 4-1 ในนาที 68 เฟร์ราน ตอร์เรส พักแล้วไหลคืนมาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟกี้ ยิงด้วยขวาเสียบเสาไกลแบบหมดจดเป็นแฮตทริกของกองหน้าโปแลนด์ในนัดนี้

นาที 71 อาซูลกราน่า ได้อีกลูก อุสมัน เดมเบเล่ ยกเข้าเขตโทษให้ เฟร์ราน ตอร์เรส สอดไปพลิกตัวยิงส่งบอลเสียบตาข่าย 5-1 

จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดรังถล่ม พิลเซ่น ขาดลอย 5-0

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน อินเตอร์ มิลาน เล่นใน ซาน ซีโร่ ปะทะ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมของเยอรมนี

เป็นทาง พี่เสือ ออกนำก่อน 1-0 ในนาที 25 โยชัว คิมมิก ผ่านบอลให้ ลีรอย ซาเน่ สอดตัดแนวรับ งูใหญ่ ก่อนหลุดไปแตะหนีผู้รักษาประตูแล้วยิงไม่พลาด

ครึ่งหลัง บาเยิร์น นำห่าง 2-0 ในนาที 66 โดยคราวนี้เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ ดานีโล่ ดามโบรซิโอ แนวรับ อินเตอร์ 

จบเกม อินเตอร์ แพ้ บาเยิร์น คารัง 0-2

ส่วนอีกคู่ คลับ บรูช เปิดบ้านชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไปด้วยสกอร์ 1-0 จากผลงาน อาบาการ์ ซิลล่า นาทีที่ 42