เริ่มที่สนาม คัมป์ นู เป็นศึกใหญ่ระหว่าง บาร์เซโลน่า ที่หมายมั่นล้างตา อินเตอร์ มิลาน ตัวแทนจากอิตาลี

เกมนี้ต้องรอถึงนาทีที่ 40 กว่าประตูแรกจะเกิดขึ้น ราฟินญ่า กระโดดแย่งกับแข้งอินเตอร์ ก่อนตามไปเอาบอลแล้วไหลให้ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ตบเข้าใน อุสมัน เดมเบเล่ ยิงจ่อๆ ไม่พลาด อาซูลกราน่า นำ 1-0 

แต่ครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที งูใหญ่ ตีเสมอ 1-1 อเลสซานโดร บาสโตนี่ วางยาวมาให้ นิโคโล่ บาเรลล่า สอดเข้าเขตโทษก่อนเอาบอลลงแล้วหวดด้วยซ้ายแสกหน้า แทร์ ชเตเก้น ไม่เหลือ

อินเตอร์ แซงนำ 2-1 ในนาที 63 ฮาคาน ชาลาโนลู วางมาให้ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ พักอกเอาลงก่อนโยกหนี เอริก การ์เซีย แล้วยิงเช็ดเสาซ้ายมือก่อนกระดอนโดนเสาขวามือเข้าประตู

นาทีที่ 70 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ส่งบอลเสียบตาข่ายแต่ไม่ได้เพราะดาวเตะชาวโปแลนด์กลับลงมาจากตำแหน่งล้ำหน้า

แต่นาทีที่ 82 บาร์ซ่า ตีเสมอ 2-2 หนนี้เป็นจังหวะเปิดเข้ากลางประตู โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โขกติดกองหลังแต่หัวหอกโปแลนด์ซ้ำดาบสองไม่พลาด

กระนั้นนาที 89 แฟนบอลใน คัมป์ นู เงียบกริบเพราะทีมเยือนนำ 3-2 อองเดร โอนานา สาดยาวมาให้ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ เปิดเข้าใน โรบิน โกเซนส์ ยิงไม่เหลือ

เจ้าบ้านไม่ยอมตีเสมอ 3-3 ในช่วงทดเวลานาทีที่สอง เอริก การ์เซีย เปิดมาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เทคตัวโขกเสียบตาข่าย 

โดยช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ซิโมเน่ อินซากี้ เทรนเนอร์งูใหญ่โดนผู้ตัดสินแจกใบแดง จบเกมเสมอ 3-3 โดยฝั่ง บาร์ซ่า มี 4 คะแนน ส่วน อินเตอร์ เก็บได้ 7 แต้มหลังจากผ่านไป 4 นัด โอกาสทีมเยือนจึงสดใสกว่า ณ ตอนนี้

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน บาเยิร์น มิวนิค ออกไปเยือน วิคโตเรีย พิลเซ่น ทีมดังของสาธารณรัฐเช็ก 

คู่นี้ผ่านไป 10 นาที เสือใต้ ออกนำ 1-0 ในจังหวะทำชิ่งหนึ่งสองของ เลออน โกเร็ตส์ก้า คืนให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดไปยิงส่งบอลเข้าประตู

เท่านั้นไม่พออีก 4 นาทีต่อมาสกอร์ขยับเป็น 2-0 โดยหนนี้ กิงส์เล่ย์ โกมัน ตบจากทางซ้ายถึงหน้าประตู โธมัส มุลเลอร์ สอดมาแปโล่งๆ ส่งบอลเสียบตาข่าย

ทีมเยือนหนีไปไกล 3-0 ในนาที 25 โธมัส มุลเลอร์ ทำเกมแล้วผ่านบอลให้ เลออน โกเร็ตซ์ก้า กดด้วยขวาผ่านการป้องกันของ ยินดริช สตาเน็ก ไม่เหลือซาก โดยหลังจากนั้น มุลเลอร์ เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง มาธีส เตล ลงมาแทน

สกอร์กลายมาเป็น 4-0 หนนี้เป็นจังหวะต่อบอลสั้นง่ายๆ ลีรอย ซาเน่ แทงเข้าช่องให้กับ เลออน โกเร็ตซ์ก้า สอดไปกระดกบอลข้ามผู้รักษาประตูไม่พลาด

พิลเซ่น ไล่มา 1-4 ในนาที 61 จอห์น มอสเกร่า โขกคืนหลังมาให้ อดัม วิลคาโนว่า ฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมซ้ายมือ

เจ้าบ้านได้อีกลูกในนาที 75 โดยเป็นจังหวะต่อบอลกันสวย ลิบอร์ โฮลิก ตบจากทางขวา ยาน คลีเมนต์ เกี่ยวบอลก่อนพลิกยิงเสียบตาข่ายไม่พลาด ให้ทีมตามมา 2-4 

จบเกม บาเยิร์น บุกชนะ พิลเซ่น 4-2 เข้ารอบต่อไปแน่นอนแล้ว ส่วนเจ้าบ้านตกรอบ

ส่วนผลของกลุ่ม บี ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เปิดบ้านแพ้ เอฟซี ปอร์โต้ 0-3