'มุนโด้เดปอร์ติโบ' รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า จะถูกสั่งปรับเงินหรืออาจถูกแบน 4-10 เกม จากเหตุการณ์ที่ประธานทีมอาซูลกราน่าบุกเข้าไปถึงห้องแต่งตัวผู้ตัดสินเพื่อขอคำอธิบายจากทีมงานเชิ้ตดำจากปัญหาในช่วงท้ายเกม 

หลังจบเกม 'เอล กลาซิโก้' ที่ บาร์เซโลน่า ตกเป็นฝ่ายปราชัยต่อ เรอัล มาดริด 1-3 ทำให้ ลาปอร์ต้า หัวเสียอย่างมากจนบุกไปถึงห้องแต่งตัวผู้ตัดสินเพื่อขอคำอธิบายจาก โฆเซ่ มาเรีย ซานเชซ มาร์ตีเนซ เชิ้ตดำในเกมดังกล่าว ก่อนจะถูกเชิญออกจากห้องแต่งตัวผู้ตัดสินโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นอีก 

จังหวะที่ทำให้ประธานบาร์ซ่าหงุดหงิดต่อการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเกิดขึ้นในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม หลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ถูกประกบจากสองกองหลังของ เรอัล มาดริด ก่อน ดาเนียล การ์บาฆาล จะทั้งดันและใช้เข่ากระแทกน่องของกองหน้าชาวโปลในเวลาเดียวกันด้วย แต่ โฆเซ่ มาเรีย ซานเชซ มาร์ตีเนซ ไม่แม้แต่จะตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวีเออาร์ 

แต่ในช่วงท้ายเกม โฆเซ่ มาเรีย ซานเชซ มาร์ตีเนซ กลับตรวจสอบวีเออาร์จากจังหวะที่ เอริก การ์เซีย เหยียบเท้า โรดรีโก้ โกเอส ในเขตโทษ ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเล่น แต่ผู้ตัดสินกลับตรวจสอบและเป่าให้จุดโทษทีมชุดขาว ก่อน โรดรีโก้ จะยิงปิดกล่องให้มาดริดคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 3-1

ตามรายงานระบุว่า ลาปอร์ต้า จะถูกปรับเงินจากเหตุการณ์ที่บุกเข้าถึงห้องแต่งตัวผู้ตัดสินข้นต่ำสุด 602 ยูโร ซึ่งไม่น่าจะกระเทือนกระเป๋าเงินของประธานบาร์ซ่า แต่ค่าปรับอาจเพิ่มขึ้นเป็น 3,006 ยูโรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวินัยมองเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไร หรือ ลาปอร์ต้า อาจถูกสั่งแบนระหว่าง 4 ถึง 10 เกมด้วย 

เหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นซีซั่น หลัง โฆเซ่ กาสโตร ประธานสโมสร เซบีย่า ทำเช่นเดียวกับ ลาปอร์ต้า ที่ เอสตาดิโอ เอล ซาดาร์ หลังทีมเซบียาโน่พ่าย โอซาซูน่า 1-2 ก่อนประธานทีมดังแดนใต้จะถูกสั่งปรับเงินขั้นต่ำ