ไลป์ซิก เล่นในบ้านส่ง โดมินิค โซบอสซไล, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก และ อันเดร ซิลวา ลงตัวจริงพร้อมกัน ส่วน เรอัล มาดริด ที่เข้ารอบไปแล้วขาดตัวหลักไปหลายคน หน้าเป้าดัน โรดริโก้ ขึ้นมาเล่น

ไลป์ซิก ได้ประตูออกนำ 1-0 ในนาที 13 จากเตะมุมที่ ดาวิด เราม์ เปิดให้ อันเดร ซิลวา โหม่งจังหวะแรกติดเซฟ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ตามโหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าไป

อีก 5 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นหนีเป็น 2-0 อมาดู ไอดาร่า ได้ยิงหน้าเขตโทษติดบล็อก บอลเด้งเข้าทาง คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ได้เกี่ยวแล้วยิงเต็มข้อด้วยขวาในเขตโทษ บอลเช็ดคานเข้าไปอย่างสะใจ

ท้ายครึ่งแรกนาที 44 เรอัล มาดริด ไล่มาเป็น 2-1 มาร์โก อาเซนซีโอ ลุยทางขวาก่อนเปิดให้ วินิซิอุส โหม่งเสียบเสาแรกเข้าไป ทำให้จบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลัง ไลป์ซิก ไม่เร่งเกมมากนัก พยายามเน้นครองบอลรักษาสกอร์นำ ขณะที่เกมรับก็ตัดจังหวะรุกของ เรอัล มาดริด เอาไว้ได้ตลอด 

นาที 71 ไลป์ซิก ได้โต้กลับ เอ็นกุนกู จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้บอลก่อนโยกหนี รือดิเกอร์ แล้วยิงด้วยขวา แต่บอลพุ่งถากเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว

อีก 10 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้เฮจนได้เมื่อ โมฮาเหม็ด ซีมาก็อง พาบอลเลี้ยงลุยขึ้นทางขวาก่อนปาดไปหน้าประตู ติโม แวร์เนอร์ ได้แปง่ายๆ เข้าไปเป็นสกอร์ 3-1 

ช่วงทดเจ็บ เรอัล มาดริด มาได้จุดโทษเมื่อ โรดรีโก้ โดนทำฟาวล์ก่อนลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด ทำให้จบเกม ไลป์ซิก เฉือนชนะ เรอัล มาดริด 3-2 โดย ไลป์ซิก ที่มี 9 คะแนนต้องวัดการเข้ารอบกับ ชัคตาร์ ที่มี  6 คะแนนในนัดสุดท้าย