ทั้งสองทีมต้องมาแย่งกันเข้ารอบโดยตรง โอลิมปิก มาร์กเซย ส่ง อเล็กซิส ซานเชซ ล่าตาข่าย ส่วน สเปอร์ส นำมาโดย แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน โดยที่กุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ ติดโทษแบนทำให้ต้องขึ้นไปดูทีมบนอัฒจันทร์ 

เริ่มเกมมาเพียง 9  นาที มาร์กเซย ต้องเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเมื่อ เอริก ไบยี่ กองหลังของทีมบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ซามูแอล ชีโญ่ต์ ลงเล่นแทน

นาที 19 มาร์กเซย มีโอกาสลุ้นเมื่อ นูโน่ ตาวาเรส เปิดบอลให้ อเล็กซิส ซานเชซ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส

สเปอร์ส เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานจนต้องเปลี่ยนตัวเช่นกันในนาที 29 เมื่อ ซน ฮึง-มิน เดี้ยงจนถูกถอดออกไป อีฟส์ บิสซูม่า ได้ลงสนามแทน 

อีก  4 นาทีถัดมา ชอร์ดาน แวร์ตูต์ ได้โอกาสวอลเลย์ด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือ โยริส 

มาร์กเซย บุกอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งขึ้นนำสำเร็จในช่วงทดเจ็บ ชอร์ดาน แวร์ตูต์ เปิดบอลจากขวาโด่งมาที่เสาไกล ชานเซล เอ็มเบมบ้า ขึ้นโขกเต็มศีรษะส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก

ครึ่งหลังนาที 54 สเปอร์ส ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะฟรีคิกทางฝั่งซ้ายที่ อีวาน เปริซิช เปิดเข้าเขตโทษ  เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ขึ้นโขกเน้นๆ ตุงตาข่าย 

นาที 59 มาร์กเซย เกือบนำอีกรอบเมื่อ อามีน อารีต์ ได้จังหวะส่องไกลเต็มข้อด้วยขวา บอลพุ่งแรงก่อนเฉียดคานไปนิดเดียว 

สเปอร์ส ส่งบอลเข้าประตูในนาที 65 เมื่อ ลูคัส มูร่า จ่ายบอลให้ แฮร์รี่ เคน หลุดเดี่ยวก่อนยิงบอลสวนตัว เปา โลเปซ ตุงตาข่าย ทว่าลูกนี้ล้ำหน้าไปเสียก่อน

ไก่เดือยทองเกือบแซงนำในนาที 80 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก ได้จังหวะยิงเน้นๆ ด้วยขวา บอลผ่านมือ เปา โลเปซ ไปแล้วก่อนชนคานอย่างจัง 

ช่วงทดเจ็บ สเปอร์ส ได้ประตูแซงชนะ 2-1 จากจังหวะโต้กลับ แฮร์รี่ เคน ไหลให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก พาบอลลุยจนถึงเส้นเขตโทษก่อนกดด้วยขวาส่งบอลพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงาม ทำให้จบเกม สเปอร์ส บุกชนะ 2-1 ได้เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วน มาร์กเซย จบอันดับบ๊วยของกลุ่ม จบเส้นทางบอลยุโรปเพียงเท่านี้ 

ส่วนอีกคู่ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต บุกชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-1 แฟร้งค์เฟิร์ต เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน จบอันดับ 3 หล่นไปเล่นยูโรปา ลีก