แฟร้งค์ ไรช์ กลายเป็นหัวหน้าโค้ชที่ต้องตกงานเป็นคนที่สองของเอ็นเอฟแอลต่อจาก แม็ตต์ รูล ของ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส หลังถูก อินเดียนาโพลิส โคลท์ส ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค

โคลท์ส ออกสตาร์ทซีซั่นนี้ด้วยสถิติ 3-5-1 หลังการปราชัยต่อ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ 3-26 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาส่งผลให้ทีมอินดี้ตัดสินใจปลด ไรช์ เฮดโค้ชวัย 60 ปีออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ โดยมี เจฟฟ์ แซตเทอร์เดย์ อดีตเซนเตอร์ที่เคยเล่นในอินเดียนาโพลิสช่วงปี 1999-2011 แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ระดับอาชีพทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งหัวหน้าโค้ชชั่วคราว

ไรช์ เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมอินดี้ในปี 2018 หลัง จอช แม็คแดเนียลส์ โค้ชทีมบุก เพเทรียตส์ ในขณะนั้นปฏิเสธย้ายมาทำงานในอินเดียนาโพลิส ซึ่ง ไรช์ นำทีมทำสถิติ 10-6 ในฤดูกาลแรกของเขา ทว่าสถานการณ์เริ่มพลิกผันนับจาก แอนดรูว์ ลัค ประกาศรีไทร์แบบกะทันหันในปี 2019 แม้ทีมอินดี้จะผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟในปี 2020 แต่ผลงานทีมถดถอยตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่ง ไรช์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังทำผลงาน 40-33-1 

มันเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีในฐานะเจ้าของทีมของ จิม เออร์เซย์ ที่ปลดเฮดโค้ชออกระหว่างฤดูกาล แม้ว่า เอียน ราโพพอร์ท เครือข่ายเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คจะเคยรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตำแหน่งของ ไรช์ ค่อนข้างปลอดภัยก็ตาม แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วหลังการปราชัยต่อ เพเทรียตส์ 3-26 เมื่อวันอาทิตย์ กลายเป็นหัวหน้าโค้ชคนที่สองของเอ็นเอฟแอลที่ว่างงานต่อจาก รูล ของ แพนเธอร์ส

ปัญหาของ โคลท์ส ไม่ได้มาจากหัวหน้าโค้ช แต่เกิดขึ้นจากความไม่มั่นคงของตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็กหลัง ลัค ประกาศรีไทร์ในปี 2019 โดยลงเล่นในยุค ไรช์ 16 เกม จากนั้นทีมอินดี้ใช้จอมทัพอีกถึง 6 คนระหว่างนั้นคือ เจโคบี้ บริสเซ็ตต์ (15), ไบรอัน ฮอยเออร์ (1), ฟิลิป ริเวอร์ส (16), คาร์สัน เวนท์ซ (17), แม็ตต์ ไรอัน (7) และ แซม เออห์ลิงเกอร์ (2)