หลังผ่าน 2 เกมแรกในศึกเจลีก ของญี่ปุ่น ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ได้ลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องให้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และทำไปแล้ว 1 ประตูในเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอกับ เซเรโซ่ โอซาก้า 3-3 ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา ได้เป็นตัวจริงทั้งสองเกมและทำไปแล้ว 1 ประตูเช่นกัน แต่นัดล่าสุดที่ทีมบุกไปชนะ อุราวะ เรด ไดมอนส์ 2-1 นั้น "มุ้ยซัง" โชว์ฟอร์มไม่ออกจนถูกเปลี่ยนตัวตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ขณะที่ ธีราทร บุญมาทัน ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมแรกแค่เพียง 16 นาที และล่าสุดในรายการบอลถ้วย เจลีกคัพ "อุ้ม" ลงเล่นเต็ม 90 นาที แต่ผลงานยังไม่ดีนักในเกมที่เปิดบ้านไล่ตามเสมอ วี-วาเรน นางาซากิ 2-2

ด้าน "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ย้ำผ่าน THSPORT ว่าทั้ง 3 คนต้องพยายามปรับตัวต่อไป แม้ทุกคนเป็นนักเตะที่มีศักยภาพ แต่ "ชนาคุง" จะมีโอกาสที่ดีกว่าเพื่อนเพราะได้อยู่มาก่อนตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ขณะที่ "มุ้ยซัง" และ "บุญจัง" นั้นเพิ่งย้ายไปจึงต้องปรับตัวใหม่ในทุกๆ เรื่อง

"ทั้งสามคนเล่นได้อยู่แล้วครับ แต่ชนาธิปจะได้เปรียบคนอื่นเพราะเขามีโอกาสได้เล่นมาก่อนแล้ว ความคุ้นเคยกับสภาพอากาศเพื่อนร่วมทีมหรือแฟนบอลเขาก็ดูจะปรับได้หมดแล้ว เหลือแค่ปรับเข้ากับแท็กติกของโค้ชใหม่และเพื่อนร่วมทีมที่เข้ามาใหม่อีกเล็กน้อย แต่ผมมองว่าปีนี้ชนาธิปน่าจะผลงานดีขึ้นเพราะเพื่อนทีมมีศักยภาพที่สูงมากขึ้นโดยเฉพาะในแดนกลางที่ได้ดาวรุ่งของคาวาซากิ ฟรอนทาเล่ (โคจิ มิโยชิ) มาช่วย" 

"ส่วนธีรศิลป์ ต้องปรับตัวไปสักพักเพราะเขาเพิ่งย้ายไปใหม่ ธีรศิลป์อาจจะง่ายกว่าตรงที่เคยไปต่างประเทศมาแล้วก็พอจะรู้วิธีการฝึกซ้อมและจัดการแบบมืออาชีพ แต่เรื่องสภาพอากาศ เพื่อนร่วมทีม และโค้ชก็คงต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันใหม่"

"ธีราทรในตำแหน่งแบ็กซ้ายเขาเก่งกว่านักเตะญี่ปุ่นหลายๆ คนในเจลีกด้วยซ้ำ แต่เขาไม่เคยไปเล่นต่างประเทศ สิ่งที่เจอคือเรื่องใหม่ทุกๆ เรื่อง ดังนั้นก็ต้องดูว่าสามารถปรับตัวได้มั้ย ถ้าปรับตัวได้ สร้างความมั่นใจให้โค้ชให้เพื่อนร่วมทีม ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับคนอื่นๆ วิสเซิ่ล โกเบ จะได้ประโยชน์จากการเปิดบอลของ ธีราทร อย่างมากแน่นอนครับ" โค้ชเฮงกล่าว