เอ็นดริค ได้รับการจับตามองจากหลายสโมสรระดับท็อปของยุโรปหลังสร้างความฮือฮามาตั้งแต่เด็กที่ยิงประตูในระดับเยาวชนให้ พัลเมรัส ได้ถึง 165 ประตูจาก 169 นัด ก่อนขยับขึ้นเล่นชุดใหญ่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 

ยักษ์ใหญ่ในยุโรปไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, เชลซี, บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต่างต้องการได้ตัวแข้งเทพวัย 16 ปีรายนี้ ก่อนสุดท้ายเป็น "ราชันชุดขาว" ที่บรรลุข้อตกลงกับ พัลเมรัส สำหรับการย้ามทีม 

ทั้งสองสโมสรได้มีการยืนยันถึงการย้ายทีมของ เอ็นดริค เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวจะเดินทางเยี่ยมชมสโมสรราชันชุดขาวในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ 

เอ็นดริค จะเล่นให้ พัลเมรัส ไปอีก 2 ปี เพื่อรออายุครบ 18 ก่อนย้ายมาเข้าถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในเดือนมิถุนายน ปี 2024 

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวดังรายงานว่า เรอัล มาดริด จ่ายเงินค่าฉีกสัญญามูลค่า 60 ล้านยูโร และค่าภาษีอีก 12 ล้านยูโรโดยจะเซ็นสัญญายาวไปจนถึงปี 2027 พร้อมด้วยออปชั่นอีก 3 ปีถึงปี 2030 

'เรอัล มาดริด, โซเซียดาด เอสปอร์ตีว่า พัลเมรัส, เอ็นดริค และ ครอบครัวของเขาได้บรรลุข้อตกลงที่นักเตะจะสามารถย้ายมาร่วมทีม เรอัล มาดริด ได้เมื่อเขาอายุครบเกณฑ์ในเดือนกรกฎาคมปี 2024' แถลงการณ์ของทีมชุดขาวระบุ

'จนถึงตอนนี้ เอ็นดริค จะฝึกซ้อมต่อที่ พัลเมรัส นักเตะจะเดินทางไปมาดริดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อเยี่ยมชมสิ่งอำนวยความสะดวกของสโมสร'

ด้าน เลล่า เปเรยร่า ประธานสโมสร พัลเมรัส กล่าวเสริมว่า 'เราได้เสร็จสิ้นการเจรจาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลบราซิล ข้อเสนอของ เรอัล มาดริด สอดคล้องกับความสามารถมหาศาลของ เอ็นดริค และสอดคล้องกับเป้าหมายทางกีฬาและการเงินที่เราได้กำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นการเจรจา'

ส่วน เอ็นดริค กล่าวภายหลังข้อตกลงดังกล่าวลุล่วงว่า 'ผมขอขอบคุณ พัลเมรัส แชมป์ที่ยิ่งใหญ่สุดของบราซิล, แชมเปี้ยนส์ของอเมริกา, แชมป์โลก และสโมสรในใจผมตลอดไป ที่มอบทุกอย่างที่จำเป็นในการเป็นอย่างที่ผมเป็นในวันนี้ ที่ช่วยสานฝันหลายๆอย่างของผมให้สำเร็จ และเคารพในความปรารถนาของผมและครอบครัวที่จะทำความฝันให้เป็นจริง' 

'จนกว่าผมจะย้ายร่วมทีม เรอัล มาดริด, ผมจะยังคงอุทิศตนต่อไป เพราะผมอุทิศตนเสมอเพื่อเสนอ พัลเมรัส ได้มากขึ้นในสนาม ทำประตูมากขึ้น, คว้าชัยชนะมากขึ้น, คว้าแชมป์มากขึ้น และความสุขที่มากขึ้นสำหรับแฟนๆของเรา'