ในโพสต์อินสตาแกรมล่าสุดของ ซินิซ่า มิไฮโลวิช ที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่าชีวิตที่ไม่มีปัญหานั้นไม่มีอยู่จริง และไม่มีใครควรอายกับความเจ็บป่วยของตัวเอง
ครอบครัวของ มิไฮโลวิช ยืนยันการเสียชีวิตของอดีตกองหลัง และเทรนเนอร์ชื่อดังในเซเรีย อา เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม
ชายวัย 53 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 3 ปี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เขาเข้าร่วมงานที่นำเสนอชีวประวัติของ ซเดเน็ค เซมัน ในกรุงโรม ซึ่งเป็นการปรากฎตัวต่อหน้าสสาธารณชนครั้งสุดท้ายของเขา
หนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ 17 พฤศจิกายน เขาได้รับเลือกให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของโบโลญญ่า เมืองที่เขาอาศัยอยู่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเป็นเทรนเนอร์ให้กับทัพ รอสโซ่บลู ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงเดือนกันายนที่ผ่านมา
"โชคชะตาต้องการให้โรคนี้ถูกพบเจอที่นี่ในโบโลญญ่า ซึ่งมีศูนย์วิจัยทางการแพทย์ที่ดีที่สุดในสาขาเนื้องอกวิทยา" มิไฮโลวิช เขียนโพสต์สุดท้ายในอินสตาแกรมของเขา
"ผมโชคดี นั่นคือเรื่องจริง...แต่ โบโลญญ่า ก็โชคดีที่มีผมเป็นโค้ชตอนเรารอดตกชั้นในปี 2019"
"การยอมรับในวันนี้หมายถึงการจัดการกับโรค อย่าอายถ้าในชีวิตคุณพบว่าตัวเองกำลังเผชิญกับช่วงเวลาดังกล่าว ชีวิตไม่ได้มีอยู่โดยปราศจากปัญหา แต่ต้องมีชีวิตอยู่แม้พบเจอปัญหา"
"นี่เป็นสัญชาติกิตติมศักดิ์ครั้งที่สองที่ผมได้รับ นอกจากจาก โนวี ซาด บทใหม และความสวยงามในชีวิตของผมเริ่มต้นขึ้น"
"รางวัลนี้ผมอุทิศให้กับครอบครัว, ภรรยา, แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์, เพื่อน, โบโลญญ่า, ทีมงาน และนักเตะของผม สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผมขออุทิศให้กับเมืองโบโลญญ่า และชาวโบโลญญ่าทุกคน"
สำหรับ มิไฮโลวิช ลงเล่นไป 315 เกมในเซเรีย อา ทำได้ 38 ประตู โดยเล่นให้ โรม่า, ซามพ์โดเรีย, ลาซิโอ และ อินเตอร์ ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2006
เขาเป็นโค้ชให้กับ คาตาเนีย, ฟิออเรนติน่า, เซอร์เบีย, ซามพ์โดเรีย, มิลาน, โตริโน่, สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ โบโลญญ่า
