โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผจก.ทีมหัวก้าวหน้าของ แมนฯ ซิตี้ ชื่นชม ริโค่ ลูอิส แบ็กขวาคนหนุ่มที่เปลี่ยนลงมาสร้างความแตกต่างแก่วิธีการเล่นครึ่งหลัง จนสามารถปราบ เชลซี 1-0 ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ วานนี้
เป๊ป เริ่มเกมด้วยแผนสุดเหนือชั้น 3-2-2-3 แบบมี ชูเอา กานเซโล่ เล่นหน้าขวา, เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ค้ำหน้าเป้าและ ฟิล โฟเด้น หน้าซ้าย
ทว่าตลอด 45 นาทีแรกขาดประสิทธิภาพกระทั่งให้ ลูอิส เปลี่ยนแทน กานเซโล่ และ มานูเอล อาคานจี แทน ไคล์ วอล์คเกอร์ ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังแล้วเกมก็ดีขึ้นผิดหูผิดตาจนต่อยอดถึงประตูชัยจาก ริยาด มาห์เรซ
การขับเคลื่อนแบบไม่มีเหนื่อยของลูกหม้อวัย 18 ปีคือสิ่งที่ประทับใจ กวาร์ดิโอล่า รวมถึงการเสียสละเล่นตำแหน่งไม่ถนัดของ กานเซโล่ และ โรดรี้
“ทุกคนก็เห็นตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลัง มันคือ แมนฯ ซิตี้ ที่ต่างออกไปเลย” กุนซือวัย 51 ปีกล่าว
https://twitter.com/ManCityMEN/status/1611243792459243520
“การขับเคลื่อนจาก ริโค่ ช่วยเอื้อทุกคนให้มีอิสระมากขึ้น เขาพลิกเกมตั้งแต่นาทีแรก”
“ผมทั้งอยากขอบคุณ ชูเอา และ โรดรี้ ต่อความกระตือรือร้นจะเล่นตำแหน่งที่รับมอบหมาย เพราะทีแรกเข้าใจว่าคู่แข่งจะมาเล่นกองหลังห้าคน”
“อีกอย่างคือครึ่งแรกทุกคนดูเฉื่อย เราไม่สามารถประสานงานกับปีกหรือกองกลางตัวรุก แทบไม่ได้สร้างสรรค์โอกาสมากนัก เพรสซิ่งแย่ และจัดการตำแหน่งไม่ดี”
“ส่วนครึ่งหลังเมื่อให้ มานู กับ ริโค่ ลงไป พวกเด็กหนุ่มมีคุณสมบัติทำให้เกมดีขึ้น”
“ทุกคนสามารถเล่นดีขึ้นเมื่อ ริโค่ ลงมา ไม่ว่า โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์ ล้วนดีขึ้น - เด็กมันมีของ”
“ก็ตั้งแต่กลับมาจากเวิลด์ คัพ หมอนั่นเล่นให้เราต่อเนื่อง กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญแก่ทีม ด้วยวิธีการที่แสดงออกมา”
แมนฯ ซิตี้ ปราบ เชลซี ตลอดการพบกัน 4 นัดหลังสุดทุกรายการ แบบคลีนชีตทั้งหมด นับเป็นค่ายที่สองเท่านั้นในประวัติศาสตร์ต่อจาก โบลตัน ระหว่างปี 1958-1960
