ดาเล่ย์ บลินด์ กองหลัง บาเยิร์น มิวนิค เปิดใจถึงการออกจาก อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ว่าเป็นการอำลาแบบไม่สวยนักหลังมีปัญหากับเทรนเนอร์ อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ ที่เขามองว่าเป็นจอมโกหกหลอกลวง อีกทั้งฝ่ายบริหารยังเลือกข้างโค้ชวัย 50 ปีจนกระทั่งตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเขา ตามรายงานจาก 'เดอ เทเลกราฟ' เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

'ผมคิดมานานแล้วว่าจะยุติอาชีพที่ อาแจ็กซ์' บลินด์ กล่าว 'แล้วผมก็คิดว่า ถ้าผมไปเร็วกว่านี้ จากนั้นซัมเมอร์หน้าเมื่อสัญญาสิ้นสุดลง ด้วยความหวังอีกหนึ่งแชมป์และอำลาทางประตูหน้า'

'แต่มันมาถึงจุดที่ผมไม่ได้รับการต้อนรับแม้แต่น้อยที่สโมสรที่ผมเดินไปมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ' บลินด์ ร่ายต่อ 'เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ฝ่ายบริหารกล่าวว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ผมเริ่มการฝึกซ้อมใหม่ในวันที่ 27 ธันวาคม และมาถึงการยกเลิกสัญญา นั่นคือจุดสิ้นสุดของรถไฟเหาะตีลังกาอันน่าเจ็บปวดที่ยาวนานหลายสัปดาห์'

ก่อนหน้านี้ คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ให้สัมภาษณ์ทีวีเมืองกังหันลมว่าสโมสรยกเลิกสัญญากับ บลินด์ เนื่องจากโค้ช อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ มีตัวเลือกอื่นในรายชื่อตัวจริง

แต่ บลินด์ ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างหนักแน่นว่า 'เขาไม่ควรพูดแทนผม นั่นไม่ใช่ฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผม ฟางเส้นสุดท้ายคือการถูกลดบทบาทจากตัวเลือกแรกในตำแหน่งมาเป็นตัวเลือกที่ 4 และโค้ชยังเพิกเฉยต่อผมอยู่ดี หลังการมีปากเสียงกันในช่วงพักครึ่งของเกมกับ อาร์เคซี (วาลไวค์)'

นอกจากนี้ บลินด์ ยังวิจารณ์พฤติกรรมของผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ของ อาแจ็กซ์ ว่า 'ฮุนเตลาร์ ทำให้ผมดูเหมือนเป็นคนเลวสำหรับกองเชียร์ ผมส่งข้อความถึงเขาทันทีเช่นกัน ผมยังพบว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ อาแจ็กซ์ เป็นคนแรกที่เปิดเผยต่อสาธารณะ'

'ในขณะที่มีบทลงโทษร่วมกันรวมอยู่ในข้อตกลงยกเลิกสัญญา ผมจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับ อาแจ็กซ์ พวกเขาจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับผม สโมสรต้องการคอร์สแบบนั้น'

กองหลังวัย 32 ปียังเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ในห้องแต่งตัวระหว่างเขากับ ชรอยเดอร์ ที่มีปากเสียงกันในช่วงพักครึ่งของเกมกับ วาลไวค์ เพิ่มเติมว่า 'ผมเพิ่งพูดถึง อาร์เคซี, เกิดอะไรขึ้นที่นั่นระหว่างโค้ชกับผม นั่นทำให้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เราเล่นกันไม่ดี'

'ช่วงพักครึ่ง ชรอยเดอร์ บอกเราว่าเพรสซิ่งของเราไม่ดี นั่นต้องเปลี่ยน 'คุณคิดอย่างไร?' เขาถามผู้เล่นแนวรุก 2-3 คน 'คุณชอบอะไรมากกว่ากัน?' เพราะอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้สื่อสาร ผมยืนขึ้นและพูดเสียงดังในห้องแต่งตัว 'โค้ช, ทำให้ชัดเจนและตัดสินใจด้วยตัวคุณเองว่าเราจะดำเนินการอย่างไร!''

จากนั้น ชรอยเดอร์ สวนกลับว่า 'คุณหุบปากซะ! หุบปากแล้วนั่งลง!' ก่อน บลินด์ จะสรุปว่า 'มันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผมกับ ชรอยเดอร์'

นักเตะสามารถโต้แย้งได้ตามความเหมาะสมในยุคของ เอริก เทน ฮาก แต่ผู้เล่นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนั้นเมื่อ ชรอยเดอร์ เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่ง บลินด์ ขอโทษเทรนเนอร์ผ่านสื่อจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น 

บลินด์ ยังแฉเพิ่มเติมว่า ชรอยเดอร์ โกหกเขา หลังเคยบอกว่าเขาจะเป็นขุมกำลังสำคัญสำหรับซีซั่นหน้า ดังนั้นการถูกถอดออกจากตำแหน่งตัวจริงและกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 4 ของตำแหน่งแบ็กซ้าย 

จากนั้น ชรอยเดอร์ จะกล่าวผ่านสื่อว่าเขาเคยหารือกับ บลินด์ ถึงการเป็นตัวสำรองก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งกองหลังวัย 32 ปีเน้นย้ำว่านั่นเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ

'ผมหวังให้ ฮุนเตลาร์ และ ฮัมสตร้า หรือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ พูดว่า 'ขอให้คุณและโค้ชคุยกันเพื่อแก้ปัญหานี้' และผมหวังให้พวกเขาพูดว่า 'คุณเป็นคนของสโมสรนี้ เราต้อการทำให้แน่ใจว่าคุณไม่ต้องการจากไป''

'แต่ไม่มีความพยายามใดๆ จากฝ่ายบริหารในการนำทีมกลับมารวมกัน' บลินด์ กล่าว 'ศูนย์, สิ่งตรงกันข้ามกลับเกิดขึ้น พวกเขารีบบอกผมว่าผมต้องจากไปด้วยตัวเอง ผมรู้สึกว่ามันเหมาะกับพวกเขา'