เจเล็น เฮิร์ตส์ ควอร์เตอร์แบ็กวัย 24 ปี เปิดเผยว่าเขาขอใช้เวลาเยียวยาแผลใจสักพักหลังพบความผิดหวังในเกม 'ซูเปอร์ โบวล์' ครั้งที่ 57 โดยยังไม่พร้อมพูดคุยเรื่องการทำสัญญาระยะยาวกับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ในช่วงเวลานี้ ตามรายงานจาก 'ฟิลาเดลเฟีย อินไควเรอร์' เมื่อวันพุธที่ผ่านมา 

'สิ่งที่ผมโฟกัสมากที่สุดคือการชนะ' เฮิร์ตส์ กล่าวกับ จอช โทเลนติโน่ จาก ฟิลาเดลเฟีย อินไควเรอร์ 'สิ่งเดียวที่ผมสนใจคือชัยชนะ และท้ายที่สุดคือการคว้าแชมป์ ดังนั้นมันจะมีวันหนึ่งที่สามารถพูดคุยกันได้ แต่วันนี้ไม่ใช่วันนั้น'

จากรายงานก่อนหน้านี้ของ เอียน ราโพพอร์ท เครือข่ายเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คระบุว่า อีเกิ้ลส์ พร้อมเดินหน้าเจรจาทำข้อตกลงระยะยาวกับ เฮิร์ตส์ ไม่ว่าผลการแข่งขันของเกม 'ซูเปอร์ โบวล์' ครั้งที่ 57 จะลงเอยอย่างไรก็ตาม

'ทันทีที่ (ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งที่ 57) จบลง อีเกิ้ลส์ จะหันเหความสนใจไปที่การล็อคควอร์เตอร์แบ็กแฟรนไชส์ครั้งใหญ่ของพวกเขาให้เป็นข้อตกลงครั้งสำคัญ' ราโพพอร์ท เผย

อดีตดราฟท์รอบ 2 คลาส 2020 ไม่มีสิทธิ์ได้รับตัวเลือกปีที่ 5 ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกดราฟท์รอบแรก อย่างเช่น โจ เบอร์โรว์, ทูอา ทาโกไวลัว, จัสติน เฮอร์เบิร์ต หรือ จอร์แดน เลิฟ นั่นหมายความว่า เฮิร์ตส์ กำลังเข้าสู่สัญญารุคกี้ปีสุดท้าย โดยมีกำหนดรับเงินมากกว่า 4.2 ล้านเหรียญสหรัฐเล็กน้อย และโบนัสอีก 600,000 เหรียญสหรัฐ หากมีการขยายสัญญาออกไปในช่วงปิดฤดูกาลนี้ เงินเดือนของควอร์เตอร์แบ็กวัย 24 ปีจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ

ปัจจุบัน แอรอน ร็อดเจอร์ส ของ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เป็นควอร์เตอร์แบ็กที่รับค่าจ้างมากสุดของลีกเฉลี่ย 50 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ตามมาด้วย รัสเซลล์ วิลสัน ของ เดนเวอร์ บร็องโก้ส์ ที่ 49 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี, ไคเลอร์ เมอร์รี่ย์ ของ อริโซน่า คาร์ดินาลส์ 46.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี, เดอชอน วัตสัน ของ คลีฟแลนด์ บราวน์ส 46 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และ แพทริค มาโฮมส์ ของ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ 45 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

เมื่อพิจารณาจากวิธีการเล่นของ เฮิร์ตส์ ไม่เพียงแต่ในเกม 'ซูเปอร์ โบวล์' ครั้งที่ 57 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาด้วย ซึ่งเขามีดีกรีเป็นรองเอ็มวีพีจึงมีโอกาสได้รับสัญญาใหม่ที่มีค่าจ้างเฉลี่ยสูงถึงปีละ 47 ล้านเหรียญสหรัฐ