ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน ชี้แจงเหตุการณ์ และการทำหน้าที่ ในการแข่งขันฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 แมตช์เดย์ที่ 22 หลังจากได้รับรายงานจากผู้ที่เกี่ยวข้อง

เหตุการณ์คู่ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ หนองบัว พิชญ เอฟซี ในนาทีที่ 45+2

ในจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปะทะกับ วุฒิชัย มารมย์ กองหลังหนองบัว พิชญ เอฟซี เป็นจังหวะฟาวล์ ก่อนไปเป็นประตูหรือไม่..? นั้น 

เหตุการณ์นี้ ผู้ตัดสินไม่ได้ให้เป็นการทำฟาวล์ และ ให้เป็นประตูของหนองบัว พิชญ เอฟซี

- หลังจากนั้น VAR ได้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีความเห็นแตกต่างจากผู้ตัดสินในสนามว่าจังหวะการปะทะกันของผู้เล่นทั้งสองทีม มีโอกาสเป็นการทำฟาวล์ของผู้เล่นหนองบัว พิชญ เอฟซี ซึ่งหลังจากนั้น หนองบัว พิชญ เอฟซี ได้ทำการบุกโดยทันทีทันใด ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นการเริ่มต้นของการบุก - Start of Attacking Possesion Phase (APP) ก่อนที่ทีมจะทำประตูได้ ซึ่ง VAR สามารถตรวจสอบเหตุการณ์นี้ได้ตามหลักการ VAR Protocol

- หลังจาก VAR ได้ทำการตรวจสอบแล้วนั้น ได้แนะนำให้ผู้ตัดสินมาตรวจสอบภาพเหตุการณ์จากจอ VAR  ข้างสนาม (On-Field Review) เนื่องจากเหตุการณ์นี้ต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา (Subjective Decision) เพื่อให้ผู้ตัดสินได้พิจารณาว่า ได้มีการทำฟาวล์ของผู้เล่นฝ่ายรุกก่อนไปเป็นประตูหรือไม่

- เมื่อผู้ตัดสินได้ตรวจสอบอีกครั้งจากจอ VAR แล้ว เห็นว่าผู้เล่นหนองบัว พิชญ เอฟซี ได้โหม่งไปที่ลูกบอล โดยการปะทะกันกับผู้เล่นบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกิดจากการที่ผู้เล่นบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้พยายามเกร็งร่างกายเพื่อรักษาสมดุลเพื่อรอที่จะครอบครองบอลที่กำลังจะมาถึง ซึ่งผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นการแย่งชิงที่ไม่ผิดกติกา (Fair Challenge) จึงได้กลับไปยืนยันให้เป็นประตูของหนองบัว พิชญ เอฟซี เหมือนเดิม