ออสติน เอเคเลอร์ รันนิ่งแบ็กวัย 27 ปี เปิดเผยว่าเขาไม่ปิดกั้นโอกาสหาทีมใหม่ แต่มีโอกาสเป็นไปได้มากสุดที่จะเล่นกับ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส อีกหนึ่งซีซั่นก่อนจะเข้าตลาดฟรีเอเจนต์ในช่วงปิดฤดูกาลปี 2024 ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 

เอเคเลอร์ เคยยื่นเรื่องขอเทรดและได้รับอนุญาตจาก ชาร์จเจอร์ส ให้สำรวจทางเลือก แต่เขายังไม่พบพันธมิตรที่เหมาะสม แม้รันนิ่งแบ็กวัย 27 ปียังคงค้นหาทีมใหม่ต่อไป ก่อนยอมรับว่าท้ายที่สุดแล้วเขาอาจไม่ได้ย้ายออกจาก แอลเอ ก่อนซีซั่น 2023

'เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเทรดทั้งหมดและเรื่องทั้งหมด ฟังนะ, เรากำลังพยายามหาพันธมิตรระยะยาว' เอเคเลอร์ กล่าว 'นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ เราต้องการใครสักคนที่ต้องการเซ็นสัญญากับเรา 2-3 ปี และไม่ได้เห็นเราแค่ในอนาคตอันใกล้ แต่อีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อทุกอย่างยุติลงกับ ชาร์จเจอร์ส เอาล่ะ, ได้เวลาไปดูว่าเราจะหาคุณค่าจากที่อื่นได้ไหม เพราะพวกเขาแสดงท่าทีว่าพวกเขาไม่สนใจในตอนนั้น'

'เวลาจะหมดลง ใครจะไปรู้? เราจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการดราฟท์ แต่มันเป็นสถานการณ์ที่ ดูสิ, หากทีมต้องการผมในระยะยาว มันคือปีที่พวกเขาจะต้องเลิกเลือก และจากนั้นผมจะต้องเจรจาใหม่ นั่นเป็นการเล่นกับมันอย่างแน่นอน แต่เราจะได้เห็นกัน อย่างที่ผมพูด เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ และเราจะได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากร่างดราฟท์'

'ฟังนะ, ผมเดาว่าสถานการณ์แย่ที่สุดตอนนี้คือผมจะกลับมาและผมจะเล่นให้ ชาร์จเจอร์ส อีกหนึ่งปี และเดิมพันกับตัวเอง จากนั้นจะเป็นฟรีเอเจนต์ในปีหน้า'

'ปีที่แล้ว เราไปหาพวกเขาแล้วถามว่า 'เฮ้, พวกนายสนใจไหม?' มันเร็วเกินไปอย่างแน่นอน เราไม่มีหลักประกันมากนัก ดังนั้นเราจึงไม่ได้พยายามอย่างหนัก' เอเคเลอร์ เผย 'พวกเขายื่นข้อเสนอให้เรา แต่ดูเหมือนว่า 'เฮ้, เอานี่ไป แล้วเราจะใช้ส่วนลดที่เราได้รับต่อไปได้' แล้วเราก็แบบว่า 'เราทำอย่างนั้นไม่ได้' ดังนั้น ผมจึงเล่นในปีนี้ตามสัญญาของผมอีกครั้ง และเห็นได้ชัดว่าตั้งมาตรฐานไว้สูง สูงกว่าที่ผมจะได้รับการชดเชยจริงๆเสียอีก'

'ดังนั้น หลังจากปีนี้สิ้นสุดลง มันเป็นช่วงที่มีการพูดคุยกันมากมายเกิดขึ้น โดยพื้นฐานแล้ว เราไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใกล้ มันไม่ใช่การเจรจาด้วยซ้ำ มันเป็นแค่แบบว่า 'เฮ้, นี่คือสิ่งที่เรากำลังคิด, นี่เป็นสิ่งที่พวกเขากำลังคิด และมันก็แค่โอเค เราไม่ได้อยู่หน้าเดียวกัน ขอจบแค่นี้เพราะผมไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป' เอเคเลอร์ กล่าว