สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ได้ส่งเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในเกม ตราด เอฟซี พบ สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด  ในกรณีที่ แพร่ ยูไนเต็ด ถูกปฏิเสธการทำประตูจากการยกธงล้ำหน้าของ นายพิศณุ ชูศรี ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 

จากจังหวะในนาทีที่ 24 วรุฒน์ บุญสุข ผู้เล่นแพร่ ยูไนเต็ด ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษของสโมสรตราด เอฟซี ก่อนจะเปิดบอลโด่งไปให้ เดชา มูฮัมหมัด สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ที่ได้วิ่งสอดจากด้านหลังขึ้นไปทางกราบขวาเข้าไปโหม่งเข้าประตูไปได้สำเร็จ แต่ นายพิศณุ ชูศรี ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้าของ เดชา มูฮัมหมัด และผู้ตัดสินได้ยืนยันคำ ตัดสินตามสัญญาณธงล้ำหน้ำของผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ซึ่งในจังหวะดังกล่าว ก่อนที่ เดชา มูฮัมหมัด จะออกตัววิ่งไปรับบอลในจังหวะที่บอลออกจากเท้าของ วรุฒน์ บุญสุข นั้น ตัวของ เดชา ยังอยู่บนเส้นกรอบเขตโทษ (เส้น 18 หลา) และมีผู้เล่นของ ตราด เอฟซี ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษ ซึ่งยืนตำแหน่งอยู่ต่ำกว่า เดชา ถึง 4 คน เห็นได้ว่า “ไม่เป็นจังหวะลูกล้ำหน้าอย่างชัดเจน”  อีกทั้งการยืนตำแหน่งของผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 อยู่ในบริเวณเหตุการณ์ใน ระยะใกล้ (ยืนอยู่แนวเดียวกับผู้เล่นสโมสรตราด เอฟซี ตัวสุดท้ายที่ยืนอยู่ในกรอบ 18 หลา) และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตลอด ในมุมมองที่เห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจน 

คณะอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ ได้พิจารณา แล้วว่า ขณะที่ วรุฒน์ บุญสุข สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด เตะลูกบอลไปให้ เดชา มูฮัมหมัด เพื่อนร่วมทีม โดย เดชา มูฮัมหมัด ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และโหม่งลูกบอลเข้าประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินกลับยกธงแจ้งว่าเป็นการล้ำหน้า ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พิจารณาแล้วว่า มีมติเอกฉันท์ นายพิศณุ ชูศรี ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด และได้ลงโทษให้พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2566 ถึง วันที่ 8 มิถุนายน 2566