เปแอสเช ได้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เจ็บจากทีมชาติ ฟิตทันลงตัวจริงร่วมกับ อุสมาน เดมเบเล่ และ กอนซาโล่ รามอส ส่วน นีซ นำมาโดย  กาเอต็อง ลาบอร์ก และ เทเร็ม มอฟฟี่ 

เริ่มเกมมาเป็น นีซ ที่มีโอกาสลุ้นจะแจ้งก่อนในนาที 11 เกเฟรน ตูราม จ่ายบอลให้ เทเร็ม มอฟฟี่ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ ทว่ายังไม่ผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า  

นีซ เป็นฝ่ายพลิกออกนำก่อน 1-0 ในนาที 21 เมื่อ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เสียบอลให้ผู้เล่นนีซที่โจมตีทันที เทเร็ม มอฟฟี่ ชิ่งให้ ฌอง-แคลร์ โตดิโบ ยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษติดบล็อก บอลเข้าทาง มอฟฟี่ ในเขตโทษที่ได้จับแล้วยิงด้วยซ้ายส่งบอลเบียดเสาเข้าไป

นาที 28 เจ้าถิ่นน่าจะตีเสมอได้เมื่อ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ชิ่งให้ อุสมาน เดมเบเล่ หลุดเดี่ยวถึงหน้าเขตโทษก่อนเลือกยิงเอง ทว่าซัดโด่งข้ามคานออกหลังไป

เปแอสเช ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ในอีกนาทีถัดมาเมื่อ อาชราฟ ฮาคิมี่ ต่อบอลกับเพื่อนทางฝั่งขวาก่อนไหลเข้ากลาง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งมากดด้วยขวาตรงเส้นเขตโทษ มาร์ซิน บูลก้า ปัดได้ แต่ด้วยความแรงก็ทำให้บอลเข้าไปอยู่ดี

ท้ายครึ่งแรกนาที 38 อุสมัน เดมเบเล่ มีจังหวะกึ่งยิงกึ่งเปิดจากในเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งถากเสาแค่คืบออกหลังขณะที่ เอ็มบั๊ปเป้ ก็ชาร์จไม่ทันและกลายเป็นตัวเองชนเสาทำให้บาดเจ็บเล็กน้อยก่อนกลับมาเล่นต่อได้ จากนั้นจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-1

กลับมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง นีซ เป็นฝ่ายออกนำ 2-1 ในนาที 53 จากการเล่นโต้กลับอันเฉียบขาด เทเร็ม มอฟฟี่ รับบอลยาวจากเพื่อนร่วมทีมก่อนลากลุยเข้าเขตโทษแล้วโยกถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วเปิดไปหน้าประตู กาเอต็อง ลาบอร์ก ซัดจ่อๆ ตุงตาข่าย

อีก 2 นาทีถัดมา ทีมเยือนมีลุ้นอีก กาเอต็อง ลาบอร์ก ไหลบอลให้ โซฟียาน ดิย็อป วิ่งมายิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ว่า ดอนนารุมม่า ล้มตัวทุบทิ้งเอาไว้ได้ 

นีซ ช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นต่อเนื่องเมื่อเป็นฝ่ายนำ 3-1 ในนาที 68 จากการเล่นโต้กลับที่สุดยอดอีกครั้ง ลาบอร์ก ดีดบอลให้ เทเร็ม มอฟฟี่ หลุดขึ้นทางขวาก่อนโยกหาช่องหน้าเขตโทษแล้วยิงผ่านกองหลังเจ้าถิ่นส่งบอลเรียดเบียดเสาเข้าไป 

ท้ายเกมนาที 87 เปแอสเช ไล่มาเป็น 3-2 ร็องดาล โกโล มูอานี่ หัวหอกตัวใหม่ที่ลงสำรองพลิกเปิดบอลไปให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ฟาดบอลกระดอนพื้นก่อนเด้งเข้าเสาไกลอย่างสุดยอด

จากนั้นจบเกมเป็น นีซ ที่เก็บชัยชนะได้ด้วยการบุกเชือด ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-2 ทำให้เจ้าถิ่นแพ้เป็นนัดแรกและแพ้คาบ้านด้วย