อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กำลังเผชิญผลงานและฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ในฤดูกาล 2023-24 จึงมีความคาดหวังสูงมากว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นในเกมใหญ่ เดอ คลาสซีเกอร์ พบกับ เฟเยนูร์ด สโมสรคู่ปรับ

อย่างไรก็ตาม เฟเยนูร์ด มายิงสามประตูขึ้นนำในครึ่งแรกจาก ซานติอาโก้ คีเมเนซ นาที 9 กับ 18 และ บาร์โบซ่า ดา ไปเซา นาที 37 ทำให้แฟนบอล อาแจ็กซ์ จำนวนมากต้องเดือดดาลกับผลการแข่งขันและรูปเกม

แฟนบอล อาแจ็กซ์ พยายามสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้น หวังที่จะทำให้เกมนี้ต้องยุติลงก่อนจบเกม 90 นาที โดยความพยายามครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงที่ เฟเยนูร์ด นำ 2-0 ถ้วยพลาสติกถูกขว้างลงไปในสนามจำนวนมาก ทำให้ผู้ตัดสินต้องเบรคเกมชั่วคราว ก่อนกลับมาเล่นต่อแล้วทีมเยือนยิงประตูที่สาม คราวนี้วัตถุที่ถูกโยนลงมาในสนามจึงเปลี่ยนเป็นพลุไฟ

หลังจากผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมชั่วคราวถึงสองครั้ง แฟนบอล อาแจ็กซ์ ก็ยังคงโยนพลุไฟลงมาในสนาม และครั้งที่สามเกิดขึ้นในนาที 56 ทำให้ผู้ตัดสินตัดสินใจยกเลิกเกมไปแบบไม่มีทางเลือกอื่น

แถลงการณ์ของสโมสร อาแจ็กซ์ ระบุว่า"พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสร อาแจ็กซ์"

"ผู้บริหารและคณะกรรมการของสโมสร อาแจ็กซ์ ไม่ยอมรับการกระทำความผิดใดๆ ที่นำไปสู่การยกเลิกการแข่งขันกับ เฟเยนูร์ด และก่อความไม่สงบเกิดขึ้นหลังจากนั้น"

"ความผิดหวังเกี่ยวกับการเริ่มต้นฤดูกาลที่ย่ำแย่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ไม่สามารถนำมาเป็นสาเหตุของพฤติกรรมความรุนแรง"

"เราต้องขอโทษทุกคนที่ได้รับความรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือได้รับผลกระทบในทางอื่นใดจากเหตุการณ์นี้"

ทั้งนี้ แม้เกมถูกยกเลิก แต่สถานการณ์ไม่ได้ลดความรุนแรงลง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ก๊าสน้ำตาเพื่อหยุดการจลาจลของแฟนบอลด้านนอกสนาม รวมถึงตรึงกำลังขัดขวางแฟนบอลบางส่วนที่พยายามฝ่าแนวกั้นลงไปยังสนามแข่งขันด้วย

ขณะที่นักเตะและทีมงานของ เฟเยนูร์ด ต้องติดอยู่ในห้องแต่งตัวเป็นเวลานาน กว่าเหตุการณ์จะสงบลงและเดินทางออกจากสนามได้อย่างปลอดภัย