โปรตุเกส ที่คว้าตั๋วรอบสุดท้ายไปแล้วจากการชนะ 7 นัดรวดยังคงส่งดาวดังอย่าง คริสเตียโน่  โรนัลโด้ นำทัพในเกมรุก ส่วนเจ้าถิ่นบอสเนียฯ มี เอดิน เชโก้ หัวหอกจอมเก๋าคอยล่าตาข่าย

เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที โปรตุเกส ได้จุดโทษเมื่อ ชูเอา เฟลิกซ์ ยิงบอลไปติดแขน อาเดรียน บาริซิช ผู้ตัดสินจึงเป่าทันทีก่อนเป็น โรนัลโด้ ที่เล่นทีมชาติเป็นนัดที่ 203 รับหน้าที่ยิงไม่พลาดเป็น 1-0

โปรตุเกส หนีเป็น 2-0 ในนาที 20 ชูเอา เฟลิกซ์ ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ โรนัลโด้ หลุดไปงัดบอลข้ามตัวนายทวารเข้าไปนิ่มๆ ตอนแรกไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ก่อนมีการเช็กวีเออาร์ชี้ขาดว่าไม่ล้ำ โรนัลโด้ จึงมี 2 ประตูตั้งแต่ต้นเกม

ทีมเยือนหนีไปไกล 3-0 ในอีก 5 นาทีถัดมา กอนซาโล่ อิ๊กนาซิโอ วางบอลยาวเข้าเขตโทษให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส พักอกเอาบอลลงก่อนหวดเต็มข้อส่งบอลเข้าเสาแรกอย่างสะใจ อิบราฮิม เซฮิช นายทวารเจ้าถิ่นหมดสิทธิ์ด้วยประการทั้งปวง

นาที 32 สกอร์ไหลเป็น 4-0 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตามไปเปิดบอลจากสุดเส้นฝั่งขวากลับมากลาง โรนัลโด้ หวดโดนไม่เต็ม บอลเลยไปถึง ชูเอา กานเซโล่ วิ่งมาซัดเต็มข้อตรงเส้นเขตโทษเสียบเสาไกล 

โปรตุเกสมาได้อีกลูกในนาที 44 ชูเอา เฟลิกซ์ ส่งบอลตุงตาข่ายได้ซึ่งตอนแรกผู้ตัดสินให้เป้นล้ำหน้าจังหวะวิ่งชนะไลน์เข้าไปเปิดให้เพื่อนของ โอตาวิโอ แต่ วีเออาร์ วีเออาร์ ตรวจสอบยืนยันว่าไม่ล้ำหน้า โปรตุเกส จึงนำห่าง 5-0 และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 66 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ราฟาเอล เลเอา ถูกเปลี่ยนตัวออกไปพักโดยมี ดิโอโก้ โชต้า และ เปโดร เนโต้ ลงสนามแทน

ช่วงเวลาที่เหลือ บอสเนียฯ ไม่สามารถตีไข่แตกได้ทำให้จบเกมเป็น โปรตุเกส ที่บุกชนะขาดลอย 5-0 ทำสถิติชนะ 8 นัดรวด ส่วน บอสเนียฯ อยู่ที่ 5 เหมือนเดิมต้องไปลุ้นเข้ารอบผ่านทางเพลย์ออฟ เนชั่นส์ ลีก