มหาเศรษฐีจากธุรกิจปิโตรเคมีรายนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาซื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด จากตระกูล เกลเซอร์ หลังจากแผนการเทคโอเวอร์ของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ

แรตคลิฟฟ์ ที่เป็นแฟน ผีแดง มาตลอดทั้งชีวิตเตรียมจ่ายเงิน 1.4 พันล้านปอนด์สำหรับการซื้อหุ้นครั้งนี้ และเข้าไปดูแลกิจกรรมด้านฟุตบอลในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อแก้ไขการตกต่ำอย่างต่อเนื่องของสโมสรที่เป็นมายาวนาน

บอร์ดบริหารจะประชุมกันในวันพฤหัสบดีเพื่อลงคะแนนข้อเสนอของ แรตคลิฟฟ์ แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่จะขัดขวางการขายหุ้น 25% ให้กับเฮดของ INEOS ซึ่งปัจจุบันก็เป็นเจ้าของทีม นีซ ในลีก เอิง ด้วย

แต่เมื่อ แรตคลิฟฟ์ เข้ามาดูแลงานด้านฟุตบอลที่แคร์ริงตันสำเร็จ การสรรหาบุคลากรชิ้นหนึ่งที่ต้องการอาจพิสูจน์ได้ว่ามีความท้าทายมากขึ้นในขณะที่เขาพยายามยกเครื่องรากฐานใหม่

ตามข้อมูลล่าสุด แรตคลิฟฟ์ สนใจที่จะร่วมงานกับ แอชเวิร์ธ หลังจากที่เขาย้ายจาก ไบรท์ตัน มายัง สาลิกาดง เพียงปีกว่าๆ

เชื่อกันว่า แรตคลิฟฟ์ รู้สึกประทับใจกับผลงานล่าสุดของ แอชเวิร์ธ ซึ่งเกี่ยวกับการสรรหาผู้เล่นอย่าง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ และ ซานโดร โตนาลี่ และการขาย อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ให้กับ อัล อาห์ลี ในราคา 25 ล้านปอนด์

แต่นับตั้งแต่การเข้าเทคโอเวอร์ของ พีไอเอฟ ในปี 2021 นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่ต้องการเงินที่ ยูไนเต็ด จะต้องจ่ายสำหรับการดึงตัวคนสำคัญของ เดอะ แม็กพายส์ และพวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรั้งตัว แอชเวิร์ธ ไว้ให้ได้

ในส่วนของ แอชเวิร์ธ ได้รับการกล่าวขานว่ากำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาของเขากับสโมสร ในขณะที่พวกเขาตั้งเป้าจะสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในระยะยาวภายใต้เจ้าของใหม่

เดลี่ เมล รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าแคนดิเดตอีกคนของ แรตคลิฟฟ์ สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่คือ พอล มิตเขลล์ ซึ่งปัจจุบันทำงานกับ โมนาโก ในลีก เอิง หลังเคยอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน, สเปอร์ส และ ไลป์ซิก มาแล้ว