สเปน ที่เข้ารอบสุดท้ายยูโร 2024 ไปได้แล้ว ลงสนามนัดรองสุดท้ายของรอบคัดเลือกด้วยการไปเยือน ไซปรัส โดยกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เลือกใช้ มิเกล โอยาร์ซาบาล, ลามีน ยามาล และ โฆเซลู เล่นเกมรุกร่วมกัน 

เริ่มเกมมา 5 นาที สเปน ออกนำเร็ว 1-0 จากการต่อบอลกันสวยก่อนเป็น มิเกล เมรีโน่ จ่ายให้ โฆเซลู ยิงกลางประตูแต่โดนไม่เต็ม บอลทะลักถึง ลามีน ยามาล ในเขตโทษฝั่งขวาที่โชว์ทักษะล็อกหนีผู้รักษาประตูและกองหลังก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด

สเปน ขยับนำเป็น 2-0 ในนาที 22 อเล็กซ์ กรีมาลโด้ จ่ายให้ มิเกล โอยาร์ซาบาล หลุดไปซัดมุมแคบด้วยซ้ายลอดขา โฌแอล มอลล์ นายทวารของไซปรับเข้าไปซึ่งตอนแรกผู้ตัดสินเป่าล้ำหน้า แต่มีการเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดใหม่ว่าไม่ล้ำจึงกลายเป็นประตูของสเปน

อีก 6 นาทีถัดมา สเปน ทิ้งห่าง 3-0 จากเตะมุมฝั่งขวาที่ มิเกล โอยาร์ซาบาล โยนโด่งจนเลยไปเสาไกล โฆเซลู พุ่งเข้าซัดระยะเผาชนไม่พลาด 

ท้ายครึ่งแรก มิเกล โอยาร์ซาบาล เกือบซัดเพิ่มหลัง โฆเซลู จ่ายให้สุดสวย แต่ยิงไปติดเซฟ ก่อนได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนให้ โรดรีโก้ รีเกลเม่ ลงเล่นแทน 

ครึ่งหลัง สเปน ไม่สามารถบวกประตูได้เพิ่ม แถมยังมาเสียประตูตีไข่แตกให้ ไซปรัส ในนาที 75 จากจังหวะที่ ชาราลัมบอส ชาราลัมบูส แย่งบอลได้ตรงกลาง ก่อนจ่ายทะลุช่องอย่างสุดยอดไปถึง คอสตาส พิเลียส วิ่งเข้ายิงด้วยซ้ายในเขตโทษ ดาบิด ราย่า หมดสิทธิ์เซฟ สกอร์เป็น 3-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกมเป็น สเปน ที่บุกชนะ ไซปรัส 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 18 คะแนน โอกาสจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มมีสูงมากเพราะ สกอตแลนด์ ได้เพียงเสมอ จอร์เจีย ทำให้มี 16 คะแนน และเหลือโปรแกรมอีก 1 นัดเท่ากัน