ปีเตอร์ โอไรลี่ย์ รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจสโมสรของ เอ็นเอฟแอล ประกาศเลือก นครเซา เปาโล ของประเทศบราซิลเป็นสังเวียนแข่งศึกคนชนคนในช่วงฤดูกาลปกติปี 2024 และคาดว่าจะเพิ่มนครมาดริดของ สเปน เป็นอีกสังเวียนในซีซั่น 2025 ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

'ข่าวคือทั้งคู่ต่างมีศักยภาพและสนใจจะเป็นเจ้าภาพจัดเกม' โอไรลี่ย์ กล่าว 'รอโอกาสได้เล่นในมาดริดและบราซิลในอนาคต เราคงตื่นเต้นมากที่จะทำเช่นนั้น เหตุผลที่เราไปกับบราซิลเป็นอันดับแรกคือการไปทวีปใหม่เป็นครั้งแรก ไปยังอเมริกาใต้เป็นครั้งแรกในช่วงฤดูกาลปกติ'

เกมที่บราซิลในปี 2024 น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการของ เอ็นเอฟแอล ที่จะลงเล่นในเมืองต่างประเทศมากขึ้น หลังบรรดาเจ้าของทีมต่างมีมติให้แต่ละทีมเล่นเกมระดับนานาชาติทุก 4 ปี ซึ่งหมายความว่า เอ็นเอฟแอล สามารถจัดกำหนดเกมระดับนานาชาติได้มากถึง 8 เกมโดยจะเริ่มตั้งแต่ซีซั่น 2025 ขณะที่ แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ส มีข้อตกลงแยกต่างหากในการเล่นเกมที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม โดยมี 2 เกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และอีกหนึ่งเกมที่มิวนิค นอกจาก เซา เปาโล 

สำหรับ บราซิล อยู่ในเรดาร์ของ เอ็นเอฟแอล มาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีแฟนๆ 38 ล้านคนในเมืองกาแฟ และได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับกิจกรรมของลีก อย่างเช่นการจัดปาร์ตี้ ซูเปอร์ โบวล์ ที่ลีกเป็นเจ้าภาพ และการถ่ายทอดเกม ซูเปอร์ โบวล์ และเกม เพลย์ออฟ ทางฟรีทีวี 

เอ็นเอฟแอล ยังมีฐานทางโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่งในบราซิล และนั่นช่วยดึงดูดแฟนๆอายุน้อยเข้ามาเพิ่มเติมด้วย ส่วนนคร เซา เปาโล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของเมืองกาแฟและเป็นเมืองหลวงทางการค้า นครแห่งนี้ยังมีสังเวียนที่เหมาะกับ เอ็นเอฟแอล อย่าง โครินเธียนส์ อาเรน่า ที่สร้างเสร็จในปี 2014 และมีความจุ 49,000 ที่นั่ง ซึ่งน้อยกว่าความจุของสนามที่เมืองแฟร้งค์เฟิร์ตเล็กน้อย