เคลาดิโอ โลติโต้ ประธานสโมสรลาซิโอ ปฎิเสธรายงานที่ว่าแฟนบอลของสโมสรมีการร้องเพลงเหยียดผิว โรเมลู ลูกากู กองหน้าของ โรม่า ในเกมที่้ทั้งสองพบกันในศึก โคปปา อิตาเลีย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
เกมดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของ "อินทรีฟ้า-ขาว" ที่เล่นเป็นเจ้าบ้านด้วยสกอร์ 1-0 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ มัตเตีย ซ้าคชานญี่ โดยมีนักเตะโดนไล่ออก 3 คนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทางเจ้าถิ่นเป็น เปโดร ส่วนฝั่ง "หมาป่า" เป็น ซาร์ดาร์ อัซมูน และ จานลูก้า มันชินี่
อย่างไรก็ตามมีเรื่องนอกสนามที่ ลาซิโอ โดนสั่งปรับ 50,000 ยูโรและปิดสนามแข่งในเกมถัดไปหลังรายงานว่าแฟนบอลร้องเพลงเหยียดผิว ลูกากู แต่ โลติโต้ ออกมาปฎิเสธในเรื่องนี้และจะมีการอุทธรณ์แน่นอน
"ผมไม่อยากจะเป็นคนเริ่มการเถียงกัน ผมจะไตร่ตรองดู มีรายงานออกมาว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของแฟนบอล 16,000 คน, มันผิดนะ เพราะมีคนมากกว่า 19,000 คน แล้วคุณได้ยินคน 17,000 คน เหยียดผิว ลูกากู หรือเปล่าล่ะ?"
"ถ้ามันเป็นแบบนั้น ผมถามตัวเอง : ทำไมผู้สังเกตการณ์ กอส, ทำไมเขาไม่ร้องเรียนในระหว่างการแข่งขัน? และผู้ตัดสิน ออร์ซาโต้ ทำไมเขาไม่พูดอะไรเลยล่ะ?"
"ผมไม่อยากพูดอะไรมาก แต่ในชีวิตมีข้อเท็จจริงที่ต้องรู้จักแพ้ เราพยายามให้ความรู้แก่คนของเราเกี่ยวกับวัฒนธรรมแห่งความพ่ายแพ้ เมื่อจัดการกับสถานการณ์บางอย่างเกี่ยวกับแฟนบอล มันจะกลายเป็นปัญหา"
นอกจากนี้ โลติโต้ ยืนยันว่าจะอุทธรณ์เรื่องการโดนปิดสนามในเกมถัดไปที่ทีมจะพบกับ นาโปลี ว่า "เราจะอุทธรณ์และดำเนินการในทางอื่นด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถพูดเกี่ยวกับ ลาซิโอ ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทีมเหยียดเชื้อชาติหรือต่อต้านกลุ่มเซมิติก (ต่อต้านยิว) หรืออะไรก็ตามที่พวกเขากล่าวหาเรา"
"ผมไม่ได้ยินการร้องเพลงเหล่านั้น ผมพูดตามตรง แต่ผมไม่ได้พูดเพราะมันเป็นปัญหาของเรา ผมพูดเพราะไม่มีใครได้ยินอะไร"
