ล็องส์ น่าจะนำตั้งแต่ 7 นาทีแรกที่ได้จุดโทษหลังจาก ดานีโล่ เปเรยร่า ไปทำฟาวล์ เอลี่ วาห์อี แต่ว่า เพอร์เซมีสวาฟ ฟรานคอฟสกี้ ซัดบอลตรงตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่ย่อตัวใช้เข่ากระแทกบอลทิ้ง ขณะที่จังหวะสอง อ็องดี้ ดิยุฟ เก็บบอลได้ก่อนกระดกให้ ฟรานคอฟสกี้ ได้ตีลังกายิงในเขตโทษ แต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป

นาที 30 เป็นทาง ปารีส ที่ได้ประตูนำ 1-0 จนได้จากจังหวะโต้กลับที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ แทงบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ บราดเลย์ บาร์โกล่า สปีดเข้าไปงัดบอลข้ามตัว บรีซ ซ็อมบ้า ตุงตาข่าย

เปแอสเช หาโอกาสได้อีกในนาที 40 อุสมาน เดมเบเล่ ไหลบอลให้ การ์ลอส โซเลร์ ยิงด้วยขวามุมแคบ ทว่า บรีซ ซ้อมบ้า ปิดมุมดีทำให้เซฟเอาไว้ได้ 

ช่วงทดเจ็บ ล็องส์ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่่อผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์เหตุการณ์ที่ โชนาตาน กราดีต์ ทำฟาวล์ บราดเลย์ บาร์โกล่า ก่อนเปลี่ยนเป็นให้ใบแดงทำให้ถูกไล่ออกจากสนาม และจบครึ่งแรกไป

ครึ่งหลังนาที 55 ล็องส์ สู้ได้ดีแม้ตัวน้อยกว่าและมีโอกาสตีเสมอเมื่อ นีล เอล อายนาอุย มีโอกาสซัดไกลหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเรียดจะเบียดเสาเข้า แต่ ดอนนารุมม่า  ล้มตัวทันเซฟเอาไว้ได้เยี่ยมเช่นกัน

เปแอสเช เกือบได้เพิ่มในนาที 71 จากการต่อบอลจนได้ยิงในเขตโทษที่ วาร์เรน ซาอีร์-เอเมอรี่จ่ายให้ ฟาเบียน รูอีซ เกี่ยวหนีตัวบล็อกก่อนยิงด้วยขวา แต่ขาอ่อนไปเองทำให้ซัดบอลหลุดเป้าหมายไปไกล

ทีมเยือนพลาดโอกาสอีกครั้งในนาที 84 วิตินญ่า จ่ายบอลย้อนกลับมาหน้าเขตโทษให้ เอ็มบั๊ปเป้ จับแล้ววอลเลย์เน้นๆ ทว่าไม่ห่างตัว ซ็อมบ้า ทำให้เซฟเอาไว้ได้

เปแอสเช มาปิดเกมได้สำเร็จก่อนจบเกมนาทีเดียวจากการเล่นโต้กลับ อุสมาน เดมเบเล่ ได้บอลฝั่งขวาก่อนไหลเข้าเขตโทษให้ เอ็มบั๊ปเป้ ตามไปตวัดยิงมุมแคบเข้าเสาไกลเป็น 2-0 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ และทำให้นำห่าง นีซ เป็น 8 คะแนน