หลังจากแพ้ต่อ วูล์ฟส์ คาบ้านอย่างน่าอัปยศ 2-4 เมื่อสุดสัปดาห์ สถานการณ์ของ โปเช็ตติโน่ อยู่ในช่วงกดดันอย่างมาก โดยมันเป็นสัปดาห์ที่เสียหายของ สิงห์บลูส์ เมื่อก่อนหน้านั้นพวกเขาก็แพ้ ลิเวอร์พูล มา 1-4

ตอน พ็อตเตอร์ ถูกไล่ออกเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว เขาพาทีมแพ้คาบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า 0-2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก่อนที่จะถูก แฟร้งค์ แลมพาร์ด เข้ามาแทนที่ตลอดซีซั่นที่เหลือ

แต่หลังจากผ่านไป 31 เกม มันเป็นสัญญาณไม่ดีสำหรับ โปเช็ตติโน่ ในฐานะคนที่ ท็อดด์ โบห์ลี่ หวังจะให้เข้ามาเขย่าทีม เชลซี โดยสิ่งต่างๆ ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเลย

สถิติจาก อ็อปต้า แสดงให้เห็นว่า พ็อตเตอร์ ซึ่งคุม เชลซี ในพรีเมียร์ลีกเพียง 22 เกม (โปเช็ตติโน่ คุมในพรีเมียร์ลีก 23 เกม) เอาชนะในทุกรายการ (12) น้อยกว่า โปเช็ตติโน่ (14) หลังจากผ่านไป 31 เกมเท่ากัน โดยกุนซืออาร์เจนไตน์มีอัตราการชนะที่เหนือกว่า 45.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ พ็อตเตอร์ อยู่ที่ 38.7 เปอร์เซ็นต์

ทีมของ พ็อตเตอร์ ยังมีผลเสมอมากกว่า (8 เกม) โปเช็ตติโน่ (6 เกม) แต่ทั้งคู่แพ้ 11 นัดเท่ากัน

ทีมปัจจุบันของ โปเช็ตติโน่ ทำประตูได้มากกว่าทีมของ พ็อตเตอร์ ใน 31 เกม โดยทำได้ 54 ลูก เทียบกับ 33 ประตู

แต่ในขณะที่ เชลซี อาจเป็นที่เล่นเกมรุกดีกว่าภายใต้การคุมทีมของ โปเช็ตติโน่ แต่จริงๆ แล้วพวกเขาก็มีเกมรับที่แย่กว่ายุค พ็อตเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก

ทีมปัจจุบันเสียไป 43 ประตูในทุกรายการ โดย 39 ลูกในนั้นเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก เมื่อมองไปยังทีมหนีตกชั้นอย่าง เอฟเวอร์ตัน เสียไปเพียงแค่ 30 ประตู ขณะที่จาก 31 นัดในยุค พ็อตเตอร์ เชลซี เสียไป 31 ประตู

อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ ยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ หลังจากเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ซึ่งจะเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์