ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นเกมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม ปะทะ ปิศาจแดง 

ผ่านไป 3 นาทีเศษ เชลซี ออกนำ 1-0 จากจังหวะ มาโล กุสโต้ สอดขึ้นทางขวาแล้วปาดเข้าในแฉลบ ราฟาแอล วาราน บอลเข้าทาง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยิงไม่เหลือซาก

จากนั้นนาทีที่ 18 อันโตนี่ หมายลงไปช่วยงานเกมรับแต่ดันเกี่ยวขา มาร์ก กูกูเรย่า ล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น โคล พาลเมอร์ สังหารไม่พลาดพาทีมหนี 2-0 

กระนั้นนาทีที่ 34 แมนฯ ยูไนเต็ด ตีไข่แตกไล่มา 1-2 มอยเซส ไกเซโด้ จ่ายคืนหลังไม่ดีเลยโดน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ฉกบอลไปยิงไม่พลาด

เท่านั้นไม่พอนาที 39 ทีมเยือนตีเสมอ 2-2 อันโตนี่ วางข้ามไปให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ แตะคืน ดีโอโก้ ดาโลต์ ครอสลึกกลับเสาไกลทางขวา บรูโน่ แฟร์นันด์ส โขกเสียบตาข่าย

ช่วงทดเวลานาทีที่ 4 เจ้าบ้านพลาดออกนำ โคล พาลเมอร์ แทงให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ สอดไปยิงด้วยขวาแต่บอลชนเสาอย่างจัง

ครึ่งหลังทีมเยือนมีโอกาสลุ้นจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แต่หวดข้ามคานไปทั้งสองคน ส่วนนาที 58 เป็นโอกาสเจ้าบ้านเมื่อทาง โคล พาลเมอร์ ยิงด้วยซ้ายติดมือ อองเดร โอนานา

กลายเป็น ผีแดง แซงนำ 3-2 ในนาทีที่ 67 จากจังหวะตัดบอลสวนกลับทางขวา อันโตนี่ ปาดบอลไปเสาไกล อเลฮานโดร การ์นาโช่ โขกสวน จอร์เจ เปโตรวิช เข้าประตู

ทดเวลานาทีที่ 7 เจ้าบ้านได้จุดโทษ โนนี่ มาดูเอเก้ ถูก ดีโอโก้ ดาโลต์ สกัดล้มลงไป โดยทาง วีเออาร์ ตรวจสอบอยู่นานก่อนยืนยัน และเป็น โคล พาลเมอร์ สังหารไม่พลาดขยับสกอร์เป็น 3-3 

ช่วงทดเวลานาที 101 เชลซี เฮลั่นเมื่อทาง โคล พาลเมอร์ กดแฉลบ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เปลี่ยนทางเข้าประตู จบเกม สิงโตน้ำเงินคราม แซงชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-3 มี 43 คะแนน รั้งที่ 10 ส่วนทีมยือนอยู่ที่ 6