ที่ ไบอารีน่า เมืองเลเวอร์คูเซ่น เจ้าถิ่นอินทรีเหล็ก วาง มาร์โค รอยส์, โธมัส มุลเลอร์ และ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ทำเกมข้างหลัง ทิโม แวร์เนอร์ 

ทางด้านเศรษฐีน้ำมันจากเอเชีย ใช้งาน ฟาฮาด ฮาซาเอ็ด อัล มูวัลลาด เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ซาเล็ม อัล ดาวซารี่ ปั้นเกม

เริ่มเกมมาเพียง 8 นาที เยอรมัน ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ โยชัว คิมมิค วางยาวมาให้ มาร์โค รอยส์ แปะบอลเข้ากลาง ทิโม แวร์เนอร์ วางเท้ายิงส่งบอลเช็ดใต้คานเข้าประตูไป

โอกาสโดยรวมยังคงเป็นของแชมป์โลกปี 2014 หนนี้ในนาที 37 เป็นจังหวะของ ซามี เคดิร่า ตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

ก่อนหมดเวลา 2 นาที สกอร์ขยับเป็น 2-0 มาร์โค รอยส์ แทงขึ้นทางซ้าย ทิโม แวร์เนอร์ ตบเข้าใน โธมัส มุลเลอร์ จิ้มบอลโดน โอมาร์ ฮาวซาวี่ เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป

ครึ่งหลังในนาที 50 อินทรีเหล็กเกือบได้เม็ดที่ 3 หนนี้ ยูเลี่ยน ดรักซ์ลอร์ ได้โอกาสสับไกแต่ติดเซฟ อับดุลลาห์ อัล มูไอยูฟ

เกมข้ามมาถึงนาที 73 ทีมเมืองเบียร์ได้โอกาสอีกครั้ง หนนี้ โธมัส มุลเลอร์ สับไกบ้างแต่ก็ยังติดเซฟ อับดุลลาห์ อัล มูไอยูฟ

จากนั้นเป็น มาริโอ โกเมซ สอดมาทางซ้ายก่อนเปิดไปเสาไกลแต่ ยูเลี่ยน บรันด์ท แปหหลุดเสา

นาทีที่ 84 ซาอุดิอาระเบีย มาได้จุดโทษเมื่อทาง ซามี เคดิร่า ไปสะกิด ไทเซอร์ อัล จาสซิม ก่อนจะเป็น โมฮัมหมัด อัล ซาห์ลาวี่ สังหารไปติดเซฟ มาร์ค อันเดร แทร์-ชเตเก้น แต่มี อัล จาสซิม ตามไปซ้ำ 1-2

จบเกม เยอรมัน เอาชนะ ไปได้ 2-1 โดยทั้งสองทีมจะบินไปที่รัสเซียเพื่อลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่ง อินทรีเหล็ก เปิดสนามเจอเม็กซิโก ส่วน ซาอุฯ ดวลเจ้าภาพ รัสเซีย