ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สเปอร์ส 3 - เชลซี 1

    ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 4 นาที สเปอร์ส ทักทายก่อนเลยจากจังหวะที่ แซร์ช โอริเย่ร์ โยนจากกราบขวาให้ แฮร์รี่ เคน เทคตัวขึ้นโหม่งได้สูงกว่าผู้เล่นของเชลซี แต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า รับไว้ได้ติดมือ

    อย่างไรก็ตามเป็น ท็อตแน่มฯ เจ้าถิ่นที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 8 จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกทางด้านขวา คริสเตียน เอริคเซ่น เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เดเล่ อัลลี่ โฉบมาโหม่งเช็ดระยะแค่ 6 หลาที่เสาแรก บอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างงดงาม

    ถัดมาสองนาที ไก่เดือยทอง น่าจะได้ประตูที่สองอย่างยิ่ง เมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น เบิ้ลบอลข้ามแนวรับให้กับ ซน ฮึง-มิน หลุดเดี่ยวเข้าไปเอี้ยวตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

    นาทีต่อมา สเปอร์ส น่าจะได้เพิ่ม เดเล่ อัลลี่ จ่ายให้กับ ซน ฮึง-มิน กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา แต่จังหวะยิงด้วยขวาจ่อๆติดเซฟของ เกปา ที่ปิดมุมได้ดี

    อย่างไรก็ตามนาทีที่ 16 สเปอร์ส นำห่าง 2-0 เมื่อ คริสเตียน เอเริคเซ่น ไหลบอลจากซ้ายสั้นๆ ให้กับ แฮร์รี่ เคน พลิกตัวได้แล้วกระชากขึ้นมาตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังของเชลซี ดันไปเอี้ยวตัวหลบ บอลเลยพุ่งวาบกระดอนพื้นเบียดเสาซ้ายมือเข้าประตูไป

    ครึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน สเปอร์ส มีโอกาสลุ้นอีกจากจังหวะเล่นเตะมุมสั้น บอลมาถึง เอริคเซ่น เปิดจากกราบขวาให้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ โฉบมายิงด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลา เกปา ปัดออกมาเข้าทางของ ฮวน ฟอยธ์ ใช้เท้าขวาดีดหลังเร็วทันที บอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

    ถัดมานาทีเดียว สเปอร์ส โต้กลับเร็วขึ้นมา ซน ฮึง-มิน หลุดขึ้นมาแล้วล็อคหนึ่งจังหวะ ก่อนปั่นด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษบอลเลี้ยวหลุดกรอบไป

    เชลซี ยังไม่ท้อ มีโอกาสบ้างในนาทีที่ 38 อัลบาโร่ โมราต้า จ่ายให้กับ เอแด็น อาซาร์ สับไกยิงด้วยขวาจากนรอกเขตโทษ เล่นเอา อูโก้ โยริส นายทวารของสเปอร์ส ต้องออกแรงปัดทิ้งออกหลังไป

    ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 ไก่เดือยทอง บดหนักทีเดียว คริสเตียน เอริคเซ่น เปิดให้กับ ซน ฮึง-มิน วอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ กลางกรอบเขตโทษ แต่ เกปา ทิ้งตัวปัดไว้ได้ ก่อนที่ ดาวิด ลุยซ์ จะเคลียร์ออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกไก่เดือยทองนำ 2-0

    ในครึ่งหลัง นาทีที่ 54 เจ้าบ้านมาหนีห่าง 3-0 เดเล่ อัลลี่ เปิดบอลยาวจากแดนหลังให้กับ ซน ฮึง-มิน กระชากบอลจากกราบขวาหนี จอร์จินโญ่ ไปได้ ก่อนจะเกี่ยวหลบ ดาวิด ลุยซ์ ที่หวังเข้ามาซ้อนอีกราย แล้วปั่นด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษ บอลเสียบมุมซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม

    กระเถิบมานาทีที่ 68 สเปอร์ส น่าจะได้ประตูที่สี่ เมื่อโต้กลับเร็วขึ้นมา มุสซ่า ซิสโซโก้ เติมมาเปิดจากกราบขวาให้ แฮร์รี่ เคน แปด้วยขวาจ่อๆ จากกลางกรอบเขตโทษ ข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ

    สองนาทีต่อมา ไก่เดือยทอง น่าจะได้เพิ่ม เมื่อ แฮร์รี่ เคน ไหลคืนหลังให้กับ เดเล่ อัลลี่ ปั่นด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น

    ล่วงเลยมานาทีที่ 76 เชลซี เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงเล่นแทน วิลเลี่ยน ส่วน สเปอร์ส ส่ง เอริค ลาเมล่า ลงเล่นแทน ซน ฮึง-มิน คนทำประตูที่สามให้กับคลับไก่

    ท็อตแน่มฯ ยังไม่เพลาเกมรุก มีโอกาสอีกในนาทีที่ 83 เอริค ดายเออร์ ให้บอลไปที่ แฮร์รี่ เคน ลากมายิงด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัวของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายทวารของเชลซี

    ทว่าสองนาทีต่อมา เชลซี ไล่ตามมาเป็น 1-3 เมื่อ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า โยนจากกราบขวาให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ลงมาเป็นสำรอง เทคตัวโขกคนเดียวจ่อๆ เข้าประตูไป

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม สเปอร์ส เปิดบ้านถล่ม เชลซี ไปสวยงาม 3-1 ทำให้สิงห์บลูส์ที่แพ้เป็นครั้งแรกในลีกซีซั่นนี้ ตกมาอยู่อันดับ 4 แล้ว โดยที่ไก่เดือยทองแซงไปที่ 3 แทน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    สเปอร์ส : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, ฮวน ฟอยธ์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เบน เดวิส - มุสซ่า ซิสโซโก้, เอริค ดายเออร์ - คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน

    เชลซี : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์กอส อลอนโซ่ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ - วิลเลี่ยน, อัลบาโร่ โมราต้า, เอแด็น อาซาร์

    ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน