'เรือใบสีฟ้า' ต้องเสีย เอมเมอริค ลาปอร์ตก์ ที่ผ่าตัดหมอรองเข่าพักยาว 4-5 เดือน ขณะที่ จอห์น สโตนส์ ก็เจ็บกล้ามเนื้อพักอีก 5 สัปดาห์ ทำให้เวลานี้เหลือปราการหลังอาชีพในทีมซีเนียร์เพียง นิโกลัส โอตาเมนดี้ เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เป๊ป ก็แก้ขัดด้วยการจับ แฟร์นันดินโญ่ ลงเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น แล้วก็โชว์ฟอร์มได้ดีในการเยือนยูเครน 

ทั้งนี้เทรนเนอร์สแปนิชเปรยว่าในอนาคตอาจเห็น โรดรี้ และ วอลเกอร์ ลงไปชิมลางรับเผือกร้อนบ้าง ตามแต่โอกาสอำนวย 

“ผมไม่คิดว่ามีข้อกังขาอยู่แล้วกับสิ่งที่ แฟร์นานดินโญ่ สามารถทำได้ - หมอนั่นต้องลงไปทำหน้าที่" กุนซือหัวก้าวหน้าสัมภาษณ์หลังจบแมตช์

"ตำแหน่งปราการหลังตัวกลางตอนนี้เรามี นิโกลัส อายุ 31 ปี, แฟรร์นานดินโญ่ 34 ปี และตัวเลือกลำดับรองไปคือเจ้าหนุ่มวัย 18 ปี (เอริค การ์เซีย) ในอนาคตอีก 3-4 เดือนข้างหน้าไม่มีทางทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เอาเป็นว่าภาพรวมการประสานของทั้งคู่คืนนี้สอบผ่าน"  

“นิโกลัส ชัวร์นิสัยใจคอที่เข้มแข็งให้เห็น หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นแมตช์ก่อนนั้น (แพ้ นอริช 2-3) 

แต่ทั้งนี้วัยวุฒิที่ค่อนข้างสูงของปราการหลังคู่กลางคือปัญหา ทำให้ กวาร์ดิโอล่า เปรยว่าจะจับ 2 แข้งหน่วยก้านผ่านเกณฑ์ ติวเล่นเซนเตอร์ด้วย 

https://twitter.com/ManCityMEN/status/1174444215151058951

กวาร์ดิโอล่า เล็ง 2 แข้งเล่นเซนเตอร์

"เราก็ต้องมองหาทางเลือกอื่นเช่นกัน บางที โรดรี้ หรือ วอลเกอร์ ต้องลงไปยืนเพราะทีมไม่สามารถให้สองผู้เฒ่าลากสังขารเล่นเซนเตอร์ไปตลอด"

"ทั้งนี้ต้องชื่นชม แฟร์นานดินโญ่ ว่าสามารถเล่นทุกตำแหน่งเพื่อทีม นั่นคือเหตผุลว่าทำไมเขาสำคัญกับเรา" 

ประวัติการเล่นปราการหลังตัวกลางของ โรดรี้ ตลอดอาชีพกับทั้ง แอต.มาดริด หรือ บียาร์เรอัล เท่ากับ 0 แต่หน่วยก้าน 1.91 เมตร พอไหว ส่วน วอลเกอร์ ส่วนใหญ่ยืนสต็อปเปอร์ขวาหากต้องปรับระบบ 3 ปราการหลังตัวกลาง