รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายจบลงไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ได้บทสรุปทีมที่เข้ารอบและตกรอบถรบถ้วนซึ่งมีทั้งหมด 24 ทีมจาก 12 กลุ่ม สมทบด้วยอีก 8 ทีมที่ตกมาจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมเป็น 32 ทีม

สรุปทีมเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายยูโรปา ลีก

แชมป์กลุ่ม (ทีมวาง) : บียาร์เรอัล (สเปน), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), บราก้า (โปรตุเกส), เอซี มิลาน (อิตาลี), อตาลันต้า (อิตาลี), โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย), วิคตอเรีย พิลเซ่น (สาธารณรัฐเช็ก), อาร์เซน่อล (อังกฤษ), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), แอธเลติก บิลเบา (สเปน), ลาซิโอ (อังกฤษ) และ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย)

รองแชมป์กลุ่ม (ไม่ใช่ทีมวาง) : อาสตาน่า (คาซัคสถาน), ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย), ลูโดโกเร็ตส์ (บัลแกเรีย), เออีเค เอเธนส์ (กรีซ), ลียง (ฝรั่งเศส), โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก), เอฟซีเอสบี (โรมาเนีย), เซอร์เวด้า ซเวซด้า (เซอร์เบีย), มาร์กเซย (ฝรั่งเศส), ออสเตอร์ซุนด์ (สวีเดน), นีซ (ฝรั่งเศส) และ เรอัล โซเซียดาด (สเปน)

ทีมที่มาจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ทีมวาง) : ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมัน) และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส)

ทีมที่มาจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ไม่ใช่ทีมวาง) : นาโปลี (อิตาลี), สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย), เซลติก (สกอตแลนด์) และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน)

สำหรับกติกาในการจับสลากรอบ 32 ทีมสุดท้าย ทีมวางจะไม่ต้องเจอกันเอง เช่นเดียวกับทีมจากกลุ่มเดียวกัน และประเทศเดียวกัน โดยทีมวางจะเป็นฝ่ายไปเยือน (15 ก.พ.) ก่อนได้กลับมาเล่นในบ้านนัดสอง (22 ก.พ.) ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะไม่มีทีมวาง และทุกทีมสามารถเจอกันได้หมด

แชมป์กลุ่ม (สีเขียว) และรองแชมป์ (สีฟ้า) ของรอบแบ่งกลุ่ม

8 ทีมที่หล่นมาจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก