สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยภาพความพร้อมของสนามแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย (AFC U23 Championship Thailand 2020) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ 

ทั้ง 4 สนาม ได้แก่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ, สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต) ปทุมธานี, สนามกีฬาติณสูลานนท์ สงขลา, สนามบุรีรัมย์ สเตเดี้ยม บุรีรัมย์ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม โดยคืบหน้าไปมาก พร้อมรับการแข่งขันที่จะเริ่มเปิดฉากวันแรกในวันที่ 8 มกราคมนี้

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดของการเตรียมความพร้อมว่า "ขณะนี้การเตรียมความพร้อมของทุกๆ สนามผมคิดว่า 90% ครับ ยังเหลือพวกรายละเอียดการตกแต่งนิดหน่อย และการเข้าติดตั้งป้ายและแบรนดิ้งของการแข่งขันบางส่วนของทุกๆ สนาม" นายกสมาคมฯ กล่าว

"ในการเข้าปรับปรุงและเตรียมตัวเพื่อการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ผมขอขอบคุณทุกๆ ฝ่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทุกๆ หน่วยงาน ของทุกๆ สนามที่เข้ามาร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งและผลักดันให้ทุกๆ แห่งมีความพร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันรายการสำคัญที่ประเทศไทยของเราได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ"

"ทุกสนามเตรียมความพร้อมและส่งมอบให้สมาคมฯ ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาและ ณ วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะให้เอเอฟซีเข้ามาเริ่มดำเนินการตรวจสอบและส่งมอบตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจนจบการแข่งขัน และเราพร้อมที่จะใช้ระบบ VAR เต็มรูปแบบครบทุกแมตช์ พร้อมด้วยระบบการถ่ายทอดสดมาตรฐานระดับโลก"

"ผมเชื่อมั่นว่าทุกๆ การสนับสนุนๆ จากทุกๆ ภาคส่วนครั้งนี้ จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการฟุตบอลของเรา และแสดงให้ชาวเอเชียเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพพอที่จะสามารถเป็นเจ้าภาพฟุตบอลรายการสำคัญแบบนี้ได้ครับ"

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย (AFC U23 Championship Thailand 2020)ในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 4 สาย มีดังนี้

กลุ่ม เอ (ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ) : ไทย, อิรัก, ออสเตรเลีย, บาห์เรน

กลุ่ม บี (สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) : กาตาร์, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย

กลุ่ม ซี (สนามติณสูลานนท์ จ. สงขลา) : อุซเบกิสถาน, เกาหลีใต้, จีน, อิหร่าน

กลุ่ม ดี (สนามช้าง อารีนา จ. บุรีรัมย์) : เวียดนาม, เกาหลีเหนือ, จอร์แดน, ยูเออี