เนมานย่า มาติช กองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าทั้งแค้น ทั้งเจ็บใจตัวเองที่ผลงานทีมซีซั่นนี้เครื่องร้อนช้าไปหน่อย จนต้องมานั่งดู ลิเวอร์พูล อริตัวเอ้ปลดล็อคแชมป์ลีกสูงสุดซึ่งห่างหายกว่า 30 ปี แถมยังลอยตัวตั้งแต่จบแมตช์เดย์ 31
ก่อนลีกระงับแข่งเพราะโคโรน่าไวรัสระบาด 'หงส์แดง' ก็จ่อแชมป์เต็มแก่เมื่อทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ อันดับสองมากถึง 25 แต้ม ขณะที่เหลือโปรแกรมเตะอีก 9 นัด
กระทั่งรีสตาร์ตไปสองเกมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไล่ยำ คริสตัล พาเลซ 4-0 ขึ้นแท่นรอแชมป์ ประจวบเหมะ ซิตี้ พังต่อ เชลซี 1-2 เป็นอันได้ขอสรุปเรื่องตำแหน่งแชมป์ฤดูกาล 2019-20
ทั้งนี้ มาติช ซึ่งนั่งทำตาปริบๆดูความสำเร็จของคู่แข่ง แล้วย้อนกลับมาดูตัวเองแม้ทีมได้โควตา ชปล.ตามเป้าแต่มีแต้มห่าง 33 คะแนน ตอนจบซีซั่น นับเป็นการบ้านกองโตที่ต้องสะสางหาทางลดช่องว่างจงได้
https://twitter.com/bartseeboob/status/1289517624531881984
มาติช ตาร้อนผ่าว
"โดยส่วนตัวผมนะอยากได้แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด" กองกลางเซิร์บกล่าวกับแมกกาซีน สโมสร
"คิดว่าสโมสรเราสมควรและจำเป็นต้องสู้เพื่อแชมป์ลีกอยู่ตลอด"
"เราต้องจำเป็นเสมอในการงัดผลงานดีสุดตอบแทนสโมสร อย่างที่ทำกันอยู่ ณ ปัจจุบัน และเห็นว่าเราไม่สามารถปล่อยให้คู่แข่งหน้าไหนมากดแชมป์ลีกก่อนจบซีซั่น 7 นัด หรือสิบนัดได้อีกแล้ว"
"ยูไนเต็ด ต้องได้อยู่ลุ้นจนสุดทาง"
"แม้ทีมเราจะอุดมไปด้วยนักเตะหนุ่มแต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างของความล้มเหลว คิดว่าพวกน้องๆมีประสบการณ์เล่นบอลลีกมากัน 2-3 ซีซั่นแล้ว"
"ดังนั้นตั้งแต่ฤดูกาลต่อไปเราจะล่าแชมป์ลีก ไม่สนหรอกว่าทำได้ไหม แต่มั่นใจมีเสียวถึงเกมสุดท้าย"
"มันคือเป้าหมายส่วนตัว แต่เชื่อว่าทีมเมตคนอื่นก็คิดแบบเดียวกัน"
เวลานี้ มาติช และคณะ แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเดินทางกลับมาจากพักผ่อนระยะสั้นเพื่อลงเตะ ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมนัดสองกับ แอลเอเอสเค ลินซ์ สัปดาห์หน้า
