แมนฯ ยูไนเต็ด

ผีแดง เสียประตูมาตลอด 12 นัดหลังสุดทั้งในลีก และบอลถ้วยที่เล่นในบ้านตัวเอง โดยมันเป็นสถิติไร้คลีนชีตยาวนานที่สุดในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่เคยทำไว้ 13 เกมติดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1964

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ระบุว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ เฟร็ด มีอาการบาดเจ็บมาจากเกมกับ อตาลันต้า และไม่ชัวร์ว่าจะพร้อมสำหรับเกมแดงเดือดนี้หรือไม่

ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เดี้ยงเล็กน้อยที่ขามาจากเกมเดียวกัน ซึ่งก็ต้องรอประเมินความพร้อม ส่วน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาซ้อมได้แล้ว และอาจเป็นตัวเลือกได้ แต่ ราฟาแอล วาราน ยังคงชวดจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ

ลิเวอร์พูล

หงส์แดง ทำประตูได้ 3 ลูก หรือมากกว่านั้นต่อนัดจาก 8 เกมเยือนหลังสุดรวมทุกรายการ ซึ่งยิงรวมไปทั้งสิ้น 28 ประตู

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะได้ เคอร์ติส โจนส์ กองกลางดาวรุ่งกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง หลังพลาดมาตลอด 2 เกมหลังสุด เนื่องจากบาดเจ็บมาจากทีมชาติอังกฤษชุดยู-21

อย่างไรก็ตาม ติอาโก้ อัลกันตาร่า จะยังคงชวดต่อไปเหมือนเดิมจากปัญหาที่น่อง ซึ่งทำให้เขาไม่ได้เล่นเลยตลอดเดือน และก็อาจจะไม่ฟิตไปจนกระทั่งเบรกทีมชาติรอบหน้าในเดือนพฤศจิกายน

11 ตัวจริงตามคาด

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

ลิเวอร์พูล อาจผลงาน และทรงบอลดีกว่าอย่างชัดเจน แต่เกมแห่งศักดิ์ศรีแบบนี้ยังไง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เล่นในรังก็คงไม่ยอมง่ายๆ แน่ เชื่อว่ายังไง หงส์แดง ก็จะไม่เจองานง่าย และกับเรตที่บุกมาเป็นต่อแบบนี้ สวนรอง ผีแดง ไปดีกว่าโอกาสลงเอยด้วยการแบ่งแต้มเป็นไปได้มากที่สุด

ผลที่คาด

แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1