เชลซี

สิงห์บลูส์ มีส่วนร่วมในอีเอฟแอล คัพ นัดชิงชนะเลิศ 10 ครั้ง โดยเอาชนะได้ 5 และแพ้ 4 จาก 9 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็แพ้มาตลอด 2 ครั้งหลังสุดในช่วงดวลจุดโทษหลังเสมอ 0-0 (แมนฯ ซิตี้ ปี 2019 และ ลิเวอร์พูล ปี 2022)

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ยืนยันว่า ติอาโก้ ซิลวา กองหลังกัปตันทีมมีโอกาสที่จะรีเทิร์นกลับมาจากอาการบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม ทั้ง รีซ เจมส์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, มาร์ก กูกูเรย่า, โรมีโอ ลาเวีย, เลสลี่ย์ อูโกชุควู และ คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า ยังคงชวดทั้งหมด ขณะที่ จอร์เจ เปโตรวิช น่าจะได้เฝ้าเสาต่อเนื่อง แม้ โรเบิร์ต ซานเชซ จะหายเจ็บเข่ากลับมาแล้ว

ลิเวอร์พูล

นี่เป็นครั้งที่ 14 ในอีเอฟแอล คัพ นัดชิงชนะเลิศ ของ หงส์แดง ซึ่งถือว่ามากกว่าทีมอื่น พวกเขาคว้าแชมป์ 9 ครั้ง โดยสลับกันระหว่างไม่ได้แชมป์ (2) และได้แชมป์ (2) ตลอด 4 หนหลังสุด

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน จะต้องรอเช็กฟิตของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ โดมินิก โซบอสไล โดย 2 รายแรกพลาดเล่นในเกมกับ ลูตัน เมื่อวันพุธ ขณะที่รายหลังสุดไม่ได้อยู่ในทีมมาตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับ เคอร์ติส โจนส์ (ข้อเท้า), อลีสซง เบ็คเกอร์ (กล้ามเนื้อ), ดีโอโก้ โชต้า (เข่า) และ เทรนท์ อเเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เข่า) ยังคงไม่พร้อมเหมือนเดิม

11 ตัวจริงตามคาด

เชลซี (4-2-3-1) : จอร์เจ เปโตรวิช - มาโล กุสโต้, อักเซล ดิซาซี่, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์ - มอยเสส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ - โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง - นิโกลัส แจ็คสัน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ - คอเนอร์ แบรดลี่ย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ค - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, โคดี้ กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ

ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาห์

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

ลิเวอร์พูล อาจทำได้ดีมากในการเจอกับ เชลซี นัดล่าสุด แต่เกมนัดชิงแบบนี้จะแตกต่างออกไปแน่ ตอนนี้ หงส์แดง มีปัญหาเรื่องสภาพทีมค่อนข้างเยอะ ซึ่งแต่ละคนส่งผลกระทบใหญ่ทั้งนั้น ฝั่ง เชลซี เองก็กลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจในช่วงหลัง เชื่อว่าเกมนี้ทั้งสองทีมจะสู้กันได้สูสีแน่ และมีโอกาสที่จะลงเอยด้วยผลเสมอในเวลา 90 นาที

ผลที่คาด

เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1