"ผมต้องการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส" คิลิยัน เอ็มบัปเป้
นอกจากการย้ายไปร่วมทีมเปแอสเช ด้วยค่าตัวมหาศาล และได้เล่นร่วมกับซูเปอร์สตาร์ดัง ซึ่งเป็นการก้าวไปสู่โลกลูกหนังอีกหนึ่งระดับ เขายังสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายกับทีมชาติฝรั่งเศส ด้วย
ในวัยเพียงแค่ 19 ปี เจ้าตัวยังเหลือเส้นทางลูกหนังอีกยาวไกล พร้อมกันนี้ ยังถูกรับเลือกให้ขึ้นปกนิตยสาร "ไทม์" ในฐานะบุคคลที่ส่งอิทธิพลต่อโลกใบนี้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กเจเนอเรชั่นใหม่
ช่วงนี้เราไปดูบทสัมภาษณ์ของเจ้าตัวกันหน่อย บอกเลยว่ามีหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจมากๆ และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า นักเตะรายนี้มีทัศนคติที่เติบโตเกินอายุไปแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไป คุณรู้สึกว่าตัวเองสูญเสียช่วงเวลาในช่วงวัยรุ่นไปหรือเปล่า ?
"แน่นอนครับ ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง มันเริ่มต้นจากการที่ผมย้ายไปร่วมทีมเปแอสเช ด้วยค่าตัวที่แสนแพง !!มันเป็นเรื่องที่พูดถึงเป็นอย่างมาก และตามมาด้วยฟุตบอลโลก ผมมีความสุขมากนะที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ผมฝันถึง"
"อย่างไรก็ตาม ผมก็พลาดบางอย่าง ผมไม่ได้มีชีวิตเหมือนคนปกติ เช่นการออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือใช้ช่วงเวลาที่เพลิดเพลิน ผมก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งการเติบโต มันทำให้ผมกลายเป็นผู้ใหญ่"
"เวลานี้ ผมมีเพื่อนร่วมทีมตั้งแต่อายุ 30, 35 จนถึง 40 ตัวอย่างเช่นจานลุยจิ บุฟฟ่อน ผมถูกคาดหวังให้กลายเป็นผู้ใหญ่ และปรับตัวเข้ากับโลกใบนี้"
พูดถึงครอบครัวของคุณหน่อย ?
"เราเป็นครอบครัวที่มีความใกล้ชิดกันมาก เราอยู่ด้วยกันที่บ้าน แน่นอนว่า เรารับประทานอาหารร่วมกันบนโต๊ะ เราไม่เคยขาดสิ่งเหล่านี้"
"ผมถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อแม่ รวมกับพี่น้องสองคน เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตั้งแต่เกมแรกของผมในระดับเยาวชน จนถึงตอนนี้ที่ผมลงเตะต่อหน้าแฟนบอล 80,000 คนในสนาม ครอบครัวอยู่ข้างๆผมเสมอ"
คิดว่าอะไรคือคุณค่าที่สำคัญมากที่สุดที่คุณจะส่งต่อไปยังเด็กรุ่นต่อไป ?
"สิ่งนั้นเรียกว่าคุณค่าของความเคารพ ผมคิดว่ามันเป็นพื้นฐานสำหรับทุกอย่าง ผมได้เรียนรู้จากนักเตะที่ยอดเยี่ยมว่า พวกเขาต้องเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน นั่นเป็นเหตุผลว่า ผมถึงให้ความเคารพต่อทุกคน"
"เราสามารถเป็นนักเตะที่ดี และเป็นแชมป์โลกได้ แต่เวลาผ่านไป 4 ปี ผู้คนก็จะลืมกันหมดแล้ว เพราะจะมีคนอื่นแทนเข้ามา และทำผลงานได้ดีกว่าคุณ ผมคิดว่ามันต้องมีส่วนประกอบของสามสิ่ง นั่นคือความเคารพ, ความนอบน้อม และความโปร่งใส"
คุณใช้ชีวิตยังไง ?
"ฟุตบอลเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับผม แต่ผมคิดว่า ต่อไปมันก็ต้องมีอะไรที่ดีขึ้นมา ผมจึงพยายามทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ก้าวไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยม และอยู่ในสถานที่ที่ผมเป็น"
"ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก ผมฝันมาเสมอเกี่ยวกับการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก พร้อมกับความฝันที่จะเป็นแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วย ซึ่งตอนนี้ ผมฝันถึงอะไรที่แตกต่างออกไป"
"เราชนะฟุตบอลโลกมา 1 หนแล้ว หวังว่าเราจะคว้าแชมป์ในปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์ มันเป็นอะไรที่ไม่เกิดขึ้นมานานมากแล้วด้วย อาชีพฟุตบอลมีเฉลี่ยราว 15 ปีเท่านั้น ดังนั้น 15 ปีนี้ เราไม่ควรหยุดนิ่งอยู่กับที่"
ทำไมฟุตบอลจึงมีความสำคัญกับเด็กๆในบงดี ซึ่งเป็นย่านที่คุณเติบโตมา ?
"บงดี เป็นเมืองที่หายใจเข้าและหายใจออกเป็นฟุตบอล มันเป็นความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด โดยทั้งเมืองติดฟุตบอลเป็นอย่างมาก พวกเขาติดตามผลงานของทีมรักเสมอ มันเป็นเรื่องราวของความฝัน และเป็นมากกว่านั้นสำหรับเด็กๆที่ชื่นชอบฟุตบอล"
ดูเหมือนว่า เด็กๆในบงดี ต้องการจะก้าวมาเป็นคิลิยัน เอ็มปัปเป้ คนต่อไป ช่วยพูดถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีหน่อยซิ ?
"ผมคิดว่า การเป็นแบบอย่างที่ดี ต้องประกอบด้วยการมีพฤติกรรมที่ดี เมื่อคุณอายุยังน้อย คุณจะได้รับคำชื่นชมจากคนที่ชมคุณผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์"
"คุณจำเป็นต้องมีทัศนคติในรูปแบบเดียวกัน มันเป็นความรับผิดชอบเลยล่ะ ผมคิดว่ามันเพียงพอแล้วกับการเป็นตัวของตัวเอง และผมจะทำแบบนั้นต่อไป จากนั้นคือการส่งแรงบันดาลใจเหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆ"
ค่ำคืนที่เอาชนะฟุตบอลโลก มีความหมายต่อคุณอย่างไร ?
"มันเป็นเหมือนความฝันที่เป็นมาตลอดชีวิต มันเป็นการแข่งขันที่มีคนดูมากที่สุด คนทั้งโลกกำลังเฝ้าชมคุณอยู่ เมื่อคุณลงไปเล่นในสนามแข่งขัน คุณลงไปปกป้องประเทศชาติของคุณเอง และคนในชาติจะหนุนหลังคุณ"
"มันจึงเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ และเป็นแรงปรารถนาในการทำทุกอย่างเพื่อชาติ ผมไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจ ผมมีความสุขมากที่เรากลายเป็นแชมป์โลก มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะเชื่อว่า คุณสามารถทำมันได้แล้ว"
คุณตัดสินใจมอบเงินที่ได้จากการเล่นฟุตบอลโลก (ประมาณ 500,000 เหรียญสหรัฐฯ) ให้กับองค์กรการกุศล ?
"ผมไม่จำเป็นต้องรับเงินจำนวนนั้น เพราะผมเดินทางไปแข่งขัน เพื่อปกป้องประเทศของเรา ดังนั้น ผมเองมีเงินมากพอแล้วล่ะ ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนที่มหาศาล ผมจึงคิดว่า สิ่งที่สำคัญคือ การนำมันไปช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการมันจริงๆ"
"ผู้คนจำนวนมากกำลังทนทุกข์ทรมาน จำนวนไม่น้อยกำลังประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ สำหรับคนอย่างเราแล้ว การยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ใช่เรื่องหนักหนาเลย"
"การบริจาคเงิน มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผมหรอก แต่มันเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ด้อยโอกาสต่างหาก ผมมอบเงินให้กับองค์กรการกุศลที่ผมกำลังให้การสนับสนุนอยู่ โดยเฉพาะกับเด็กพิการ ซึ่งผมอยากให้รู้ว่า พวกเขาสามารถเล่นกีฬาได้เหมือนคนทั่วไป"
ตอนนี้คุณมีชื่อเสียงแล้ว ช่วยพูดถึงสิ่งที่คุณอยากทำนอกสนามฟุตบอลหน่อย ?
"ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก คุณแม่สอนเสมอว่า การที่จะก้าวมาเป็นสุดยอดนักเตะนั้น ผมต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเสียก่อน ผมจึงใช้ความมีชื่อเสียงของตัวเอง สนับสนุนเรื่องการกุศล ผมอยากช่วยคนที่ด้อยโอกาส ใช้ความมีชื่อเสียงนี่แหล่ะเป็นตัวช่วย ไม่เพียงแค่การเลี้ยงอาหารค่ำมื้อดีๆ หรือนอนโรงแรมสุดสวยเท่านั้น แต่มันเป็นการช่วยให้พวกเขาเหล่านั้น มีช่วงเวลาที่ไม่เหมือนใคร"