:::     :::

ไทม์ไลน์ของ ลุค ชอว์

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2561 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
3,992
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นักฟุตบอลหลายคนมีกราฟชีวิตขึ้นๆ ลงๆ ตามแต่ละช่วงเวลา บางคนตกต่ำดำดิ่ง แต่บางคนก็ฉุดตัวเองขึ้นมาได้ และหนึ่งในนั้นคือ ลุค ชอว์

ไทม์ไลน์ของ ชอว์ น่าสนใจไม่น้อย หลังจากแจ้งเกิดกับ เซาธ์แฮมป์ตัน สโมสรที่เข้ามาอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และพรวดขึ้นสู่ทีมชุดยู-18 ตอนอายุ 15 ก่อนถูกผลักดันสู่ทีมชุดใหญ่ในวัย 16 ปี

มกราคม ปี 2012 เป็นตลาดซื้อขายหนแรกที่ ชอว์ ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากบรรดายักษ์ใหญ่อย่าง อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อยากได้ตัวไปปลุกปั้นต่อในทีมชุดเยาวชน ซึ่ง เซาธ์แฮมป์ตัน ก็ตั้งค่าตัวเอาไว้สูงทีเดียว 4 ล้านปอนด์ สำหรับแบ็กซ้ายวัยละอ่อนที่ยังไม่ได้ประเดิมเกมลีก (แชมเปี้ยนชิพ) เลย
ซัมเมอร์ ปี 2012 เซาธ์แฮมป์ตัน เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก และ ชอว์ ก็เป็น 1 ใน 4 นักเตะร่วมกับ เจมส์ วอร์ด-พราวส์, คาลัม แชมเบอร์ส และ แจ๊ค สตีเฟนส์ ที่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพฉบับแรกกับสโมสร
ชอว์ ประเดิมเกมลีกในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012-13 และจบซีซั่นแรกด้วยการลงเล่น 28 นัดรวมทุกรายการ ก่อนจะได้รับของขวัญฉลองวันเกิดอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม ปี 2013 ด้วยสัญญาฉบับใหม่ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งสัญญาฉบับนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อไปในอนาคต
เส้นทางของ ชอว์ ในทีมชาติอังกฤษก็ดูราบรื่นไปหมด หลังจากพุ่งขึ้นติดทีมชุดยู-21 ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2013 หนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือนถัดมา ก็ถูก รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกไปติดทีมชุดใหญ่ และหนีบไปลุยฟุตบอลโลก 2014 ด้วยในฐานะตัวสำรองของ เลห์ตัน เบนส์
แบ็กซ้ายจากสโมสรดังแดนใต้ ค่าตัวพุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ หลังจากจบฤดูกาล 2013-14 ที่กลายเป็นตัวหลักถาวรลงสนามไปทั้งหมด 38 นัดในทุกถ้วย และเป็น 1 ใน 6 นักเตะที่ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ หรือสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ
แม้ อาร์เซน่อล ยังคงเป็นสโมสรที่จับตามองตั้งแต่แรก และมีข่าวด้วยแทบทุกช่วงตลาดซื้อขาย แต่เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทุ่มข้อเสนอมหาศาลในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 จน เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่อาจปฏิเสธได้ ตัวเลขคาดการณ์ว่าอยู่ที่ราวๆ 30 ล้านปอนด์ จึงกลายเป็นดาวรุ่งที่ค่าตัวแพงที่สุดของโลกในเวลานั้น
อันที่จริง เชลซี ก็เป็นอีกทีมที่พร้อมแย่งชิงตัวในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็ต้องถอยทัพเพราะเกรงว่าค่าเหนื่อยที่สูงของแบ็กซ้ายวัยรุ่นรายนี้จะสร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นภายในสโมสร
ชอว์ ก้าวเท้าเข้าสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฐานะแข้งใหม่ที่เสริมทัพรายที่สองของ หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์ชาวดัตช์ที่เข้ามากอบกู้ทีม หลังจากปลด เดวิด มอยส์ ในช่วงปลายฤดูกาลก่อน
แต่การย้ายมาพร้อมๆ กันกับ ดาเล่ย์ บลินด์ และ มาร์กอส โรโฮ ก็ทำให้ ชอว์ เข้าๆ ออกๆ ทีมตัวจริงในฤดูกาลแรก ก่อนจบซีซั่นด้วยการลงสนามไปเพียง 20 นัด
ฤดูกาล 2015-16 คือซีซั่นที่ ชอว์ ออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม ลงตัวจริงเกมลีกทุกนัด จนกระทั่งฝันร้ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2015 จากเหตุการณ์ขาหักสยองในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเยือน พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
ชอว์ ใช้เวลาพักฟื้นราวๆ 6 เดือนเศษ ก็กลับมาลงซ้อมได้ในเดือนเมษายน แต่กว่าจะลงสนามในเกมแบบเป็นทางการครั้งแรกได้ก็ต้องรอถึงช่วงต้นฤดูกาล 2016-17
แม้การร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ตั้งแต่ซีซั่นนั้นเป็นต้นมา จะเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามต่างๆ มากมาย หลายครั้งที่ถูกผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสวิพากษ์วิจารณ์ออกสื่อแบบเสียๆ หายๆ ถูกตัดชื่อออกจากทีม หรือเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่พักครึ่ง
อนาคตของ ชอว์ ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เริ่มขุ่นมัวมากขึ้นเรื่อยๆ แม้สัญญาระยะเวลา 4 ปีที่สิ้นสุดเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีเงื่อนไขขยายเพิ่มอีก 12 เดือน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็รีรออยู่นานจนกว่าจะตัดสินใจต่อเพิ่มออกไปจนจบซีซั่น 2018-19
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นใจ อาทิ แอชลี่ย์ ยัง สภาพร่างกายล้ามาจากฟุตบอลโลก, มาร์กอส โรโฮ บาดเจ็บ และขาย ดาเล่ย์ บลินด์ กลับไปให้ อาแจ็กซ์ ทำให้โอกาสของ ชอว์ มาถึง
สถานการณ์ของ ชอว์ ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2018-19 คลี่คลายไปในทางที่ดี การลงตัวจริงตั้งแต่นัดแรกของซีซั่น และประเดิมประตูแรกในชุด แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อ 4 ปีก่อน ในเกมชนะ เลสเตอร์ 2-1 จนถึงตอนนี้แบ็กซ้ายวัย 23 ปีลงตัวจริง 7 จาก 8 นัดแรกของฤดูกาล บวกกับเกมแชมเปี้ยนส์ลีก อีก 2 นัด
นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ชอว์ ออกไปอีก 5 ปี ไปสิ้นสุดในปี 2023 พร้อมเงื่อนไขขยายเพิ่มอีก 12 เดือนเหมือนเดิม และอัพค่าเหนื่อยรวมโบนัสต่างๆ ไปจบที่ตัวเลข 195,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ถึงตอนนี้ ชอว์ ได้ระบายสีอนาคตของตัวเองให้กลับมาสว่างสดใสอีกครั้งแล้ว ไม่เพียงแค่กับต้นสังกัด แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ยังรวมถึงทีมชาติอังกฤษ ยุคของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ชื่นชอบในการปลุกปั้นดาวรุ่งด้วย
หากไม่ประสบปัญหาบาดเจ็บรุนแรงเหมือนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ชื่อของ ลุค ชอว์ จะกลายเป็นแบ็กซ้ายตัวหลักของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปทุกๆ ฤดูกาลแน่นอน และทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง ยูโร 2020 และ เวิลด์คัพ 2022 ในฐานะตัวจริงของทัพ ทรี ไลออนส์ ก็รออยู่ด้วย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด