“ราเยวัช โดนเด้งแล้ว” ใครสแตนด์บายอยู่รอบเช้าฝากขึ้นข่าวที ปลายสายทิ้งข้อความสั้นๆไว้

แม้จะโดนฤทธิ์ เบียร์ลาว ผสมผลการแข่งขัน 1-4 ตีกบาลจนมึน แต่มันก็ทำให้ฉันกระชากตัวเองลุกมาอ่านเนื้อหาข่าวอย่างละเอียด

ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ฉันนั่งคุยกับเพื่อนในวงสนทนาน้ำเมา หลังเกมจบแล้วว่า “ขาเก้าอี้” มิโลวาน ราเยวัช อาจโดนเรื่อยเลย โดยที่ยังไม่จบทัวร์นาเมนต์ เมื่อยังมีทีมงานอย่าง “พี่โต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย และ โชคทวี พรหมรัตน์ เดินทางมาด้วย

ไม่มีความชอบธรรม หรือคำปลอบประโลม รวมถึง วลีโก้หรู “ชวนฝัน” สำหรับกุนซือชาวเซิร์บอีกต่อไป เมื่อผลลัพธ์ตรงหน้ามันตอบเราได้ว่าเขา “สอบไม่ผ่าน” อย่างชัดเจน

จาก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ ล่วงผ่านมายัน เอเชียนคัพ สิ่งที่ ราเยวัช บอกผ่านไว้เขาไม่สามารถแสดงออกมาให้เห็นผ่านสายตาแฟนบอล การ “แยกทาง” จึงเป็นคำตอบสุดท้าย

แม้ใจหนึ่ง ฉันเองไม่เห็นด้วยกับการ “เด้งฟ้าผ่า” หากแต่ยื้อแต่ไป สถานการณ์คงไม่เปลี่ยนแปลง

แฟนบอลหลายคนบ่นถอดใจ คงไม่ผิด เมื่อชาติที่เราต่างมองว่าเป็น “งานง่าย” ให้เราสามารถเก็บคะแนนได้มากสุดในสาย กลับสวมวิญญาณฆาตกรอำมหิตไล่ถลุงเราเละเทะ 4-1

ถึงกระนั้น สิ่งที่ยังเหลืออยู่คือ “แววตา” ของนักฟุตบอลทุกคน

นัยน์ตาเศร้า ผิดหวังกับภารกิจแรก แสดงออกผ่านบนใบหน้าชัดเจน แต่กระนั้นในความเศร้า ยังมีความแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้ปนอยู่

ใช่ ... สมรภูมิลูกหนังเอเชีย เพิ่งผ่านพ้นไปเกมเดียว และ ทีมชาติไทยยังเหลืออีก 2 เกมให้สู้คือ บาห์เรน กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

มองผิวเผิน หลายคนคิดว่าเราเป็นรองคู่แข่งสุดกู่ ยิ่งเมื่ออ้างอิงจากผลงานชวนบัดซบฝนนัดแรก (ครึ่งหลัง)

แต่ก็นั่นแหละ เพราะฟุตบอล อาจเป็นกีฬาชนิดเดียวบนโลก ที่หาความเข้าใจ และตรรกะใดๆมาอธิบายได้ยาก เรื่องไม่คาดฝันมักแวะมาเคาะประตูเสมอ

เดินต่อช้าๆ ไม่อยากปล่อยฝันให้มันหลุดมือ
ที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น…

เพราะชีวิตยังมีความหวัง ประตูสู่รอบต่อไปยังแง้มให้ ตราบที่ยังมีโอกาส ก็ต้องตะบันฝีตีนอย่างสุดความสามารถ เพื่อผ่านมันไป

อีกอย่าง เอเชียนคัพ คือทัวร์นาเมนต์ที่รอมากว่า 12 ปี และเป็นรายการที่เราไม่เคยผ่านรอบแรกได้สักครั้ง ฉะนั้นเมื่อมี “เป้าหมาย” ชัดเจน ก็อยากเอาใจช่วยทีมชุดนี้ให้ไปถึง

ลึกๆ ฉันเชื่อในทรัพยากร ทีมชาติไทย ที่มีเวลานี้ ว่าดีไม่แพ้ชาติอย่าง บาห์เรน คู่ต่อสู้ด่านถัดไป

หากเปรียบ “ช้างศึก” ชุดนี้เป็นเครื่องดื่ม พวกเขาคงไม่ต่างจากคอกเทลชั้นดี ที่ถูกหมักบ่มมานาน แต่จะมี “บาร์เทนเดอร์ลูกหนัง” คนไหน ที่จะจับสูตร ดึงรสชาติคอกเทลขวดนี้ เทส่วนผสมออกมา ให้รสชาติกลมกล่อมที่สุด

ศิริศักดิ์ ยอดหญ้าไทย อาจไม่ใช่บาร์เทนเดอร์ลูกหนังชื่อดัง แต่เขาคือคนหนึ่งที่คลุกคลีกับ “ช้างศึก” ชุดนี้มา และรู้ธรรมชาตินักเตะแต่ละคน ว่าใครเป็นเช่นไร

เมื่อนักฟุตบอลยังพร้อมสู้ แฟนบอลเองก็ควรเป็น “ลมใต้ปีก” ให้พวกเขาด้วย

เหมือนที่ พี่ตูน บอดี้สแลม บอกผ่านไว้ในบทเพลง “ความเชื่อ” นั่นแหละ

แม้ท้อแท้สักกี่ทียังมีหวัง

แม้พลาดพลั้งสักกี่ครั้งยังฝันไกล

แม้ฉันล้มฉันก็คงไม่ตาย

ฉันยังไม่ตาย...ฉันยังคงหายใจ